البحث

عبارات مقترحة:

البر

البِرُّ في اللغة معناه الإحسان، و(البَرُّ) صفةٌ منه، وهو اسمٌ من...

الحي

كلمة (الحَيِّ) في اللغة صفةٌ مشبَّهة للموصوف بالحياة، وهي ضد...

المقيت

كلمة (المُقيت) في اللغة اسم فاعل من الفعل (أقاتَ) ومضارعه...

150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอน

التايلاندية - ไทย / Phasa Thai

المؤلف ยูซุฟ อบูบักรฺ ، ฟัยซอล อับดุลฮาดี
القسم مقالات
النوع نصي
اللغة التايلاندية - ไทย / Phasa Thai
المفردات فضائل العبادات
บทความที่รวบรวมบรรดาหะดีษและอาษารฺซึ่งเป็นประตูหลายบานที่จะนำไปสู่ความดีงามพร้อมทั้งเป็นการมาช่วยขัดเกลาในภารกิจอันสำคัญของเดือนเราะมะฎอนอันประเสริฐนี้ พร้อมกันนี้ได้เตือนระวังถึงความจำเป็นต่อการรักษาการทำอิบาดะฮฺทั้งที่เป็นฟัรฏูและซุนนะฮฺ

التفاصيل

150  ประตูแห่งความดี  แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอนإلى من أدرك رمضان ... 150 بابا من أبواب الخيرแปลโดย: ยูซุฟ อบูบักร (ทิวากร แย้มจังหวัด)ترجمة: يوسف أبوبكرตรวจทาน: ฟัยซอล อับดุลฮาดีمراجعة: فيصل عبدالهادي150  ประตูแห่งความดี  แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอนอัลฮัมดุลิลลาฮฺ  วัศเศาะลาตุวัสลาม  อะลาคอตะมิลอัมบิยาอฺวัลมุรซาลีน  นบิยฺยินามุฮัมมัด  วะอะลาอาลิฮี  วะเศาะฮฺบิฮีอัจญมาอีนพวกเราจำเป็นต้องมีหุ้นส่วนในการร่วมฟื้นฟูเดือนอันยิ่งใหญ่เดือนเราะมะฎอน  เดือนแห่งการอภัยโทษและความพอพระทัย  ซึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสไว้ว่า:«شَهْرُ رَمَضَانَ الَّذِي أُنْزِلَ فِيهِ الْقُرْآَنُ هُدًى لِلنَّاسِ وَبَيِّنَاتٍ مِنَ الْهُدَى وَالْفُرْقَانِ فَمَنْ شَهِدَ مِنْكُمُ الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ»  “เดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเป็นข้อแนะนำสำหรับมวลมนุษยชาติ  และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น  และเป็นสิ่งที่มาจำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ  ดังนั้นผู้ใดจากกลุ่มพวกท่านเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้วก็จงถือศิลอด...”  (อัลบากอเราะฮฺ  :185)  ในโอกาสนี้เราเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรวบรวมบรรดาหะดีษและอาษารฺซึ่งเป็นประตูหลายบานที่จะนำไปสู่ความดีงามพร้อมทั้งเป็นการมาช่วยขัดเกลาในภารกิจอันสำคัญของเดือนอันประเสริฐนี้  พร้อมกันนี้ได้เตือนระวังถึงความจำเป็นต่อการรักษาการทำอิบาดะฮฺทั้งที่เป็นฟัรฏูและซุนนะฮฺ  และอัลลอฮฺเป็นผู้นำทางสู่เส้นทางอันเที่ยงตรง1.                การมีความบริสุทธิ์ใจ  (อิคลาศ)  อัลลอฮฺกล่าวว่า:«وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ حُنَفَاءَ وَيُقِيمُوا الصَّلَاةَ وَيُؤْتُوا الزَّكَاةَ وَذَلِكَ دِينُ الْقَيِّمَةِ»  “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ  เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์เป็นผู้อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงและดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาตและนั่นคือศาสนาอันเที่ยงธรรม”  (อัลบัยยินะฮฺ : 5)2.                มุ่งมั่นในการกลับเนื้อกลับตัว  (เตาบะฮฺ) ต่ออัลลอฮฺ  ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  กล่าวว่า  “ผู้ใดที่ได้เตาบะฮฺก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก  อัลลอฮฺจะตอบรับการเตาบะฮฺของเขา”  (มุสลิม)  “แท้จริงอัลลอฮฺจะตอบรับการเตาบะฮฺของบ่าวตราบใดที่ลมหายใจยังไม่ถึงคอหอย”  (อัตติรมิซียฺ)3.                ขอดุอาอฺขณะที่เห็นเดือนจันทร์เสี้ยวว่า  “โอ้อัลลอฮฺขอให้เราได้รับเดือนเสี้ยวด้วยความปลอดภัยและความอีมาน  ความปลอดภัยและอิสลาม  อัลลอฮฺเป็นผู้อภิบาลของฉันและของท่าน”  (อะหฺมัดและอัตติรมิซียฺ)4.                ถือศิลอดเดือนเราะมะฎอนด้วยอีมานและหวังในการตอบแทน  “ผู้ใดที่ถือศีลอดด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน  จะถูกอภัยโทษให้แก่เขาในความผิดที่ผ่านมา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)5.                ถือศีลอดในเดือนเชาวาล  6  วัน  “ผู้ใดที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนและถือศีลอดตามอีกหกวันในเดือนเชาวาลแล้ว เสมือนว่าเขาผู้นั้นได้ถือศีลอดหนึ่งปี”  (มุสลิม)6.                ละหมาดกลางคืนในเดือนเราะมะฎอนด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน  “ผู้ที่ละหมาดตอนกลางคืนในเดือนเราะมะฎอนด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน  จะถูกอภัยโทษให้แก่เขาในความผิดที่ผ่านมา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)7.                ละหมาดในคืนลัยละตุลก็อดรฺด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน  “ผู้ใดที่ละหมาดในคืนลัยละตุลก็อดรฺด้วยความอีมานและหวังในการตอบแทน  จะถูกอภัยโทษให้แก่เขาในความผิดที่ผ่านมา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)8.                มีความมุ่งมั่นในการทำอิบาดะฮฺช่วง  10  คืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน  “ปรากฏว่าท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อเข้าช่วงสิบคืนสุดท้าย  ท่านจะไม่นอนในตอนกลางคืน  ปลุกให้สมาชิกในครอบครัวตื่น  และจะถลกผ้าโสร่งขึ้น  (เปรียบเทียบถึงความมุ่งมั่นในการแสวงหาความดีของท่าน) (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)9.                ทำอุมเราะฮฺ  “การทำอุมเราะฮฺในเดือนเราะมะฎอนผลบุญเทียบเท่าการทำฮัจญ์  หรือการทำฮัจญ์พร้อมกับฉัน”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)10.             การเอี๊ยะติกาฟ  “ปรากฏว่าท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะเอี๊ยะติกาฟในช่วงสิบคืนสุดท้ายของเดือนเราะมะฎอน”  (อัลบุคอรียฺ)11.             เลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ถือศีลอด  “ผู้ใดที่เลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ถือศีลอดเขาจะได้รับผลบุญเหมือนผู้ที่ถือ  โดยที่ผลบุญของผู้ที่ถือศีลอดไม่ได้ลดน้อยลงแต่ประการใด”  (อัตติรมิซียฺ  ท่านกล่าวว่าเป็นหะดีษฮะซันศอเฮี๊ยะ)12.             อ่านและใคร่ครวญอัลกุรอาน  “จงอ่านอัลกุรอาน  แท้จริงในวันกิยามะฮฺมันจะช่วยเหลือให้แก่สหายของมัน”  (มุสลิม)13.             เรียนและสอนอัลกุรอาน  “ผู้ที่ประเสริฐสุดในกลุ่มพวกท่านคือ  ผู้ที่เรียนและสอนอัลกุรอาน"  (อัลบุคอรียฺ)14.             ซิกรุลลอฮฺตะอาลา  “เอาหรือไม่ฉันจะบอกพวกท่านถึงการงานที่ดีที่สุดสำหรับพวกท่าน  เพิ่มพูน(ผลบุญ)มากที่สุด ณ ที่พระเจ้า  มีตำแหน่งสูงส่งที่สุด  ประเสริฐกว่าการบริจาคเงินทอง  ประเสริฐกว่าที่ท่านออกไปเผชิญหน้ากับศัตรูโดยที่พวกท่านได้ฆ่าพวกเขาและพวกท่านถูกพวกเขาฆ่า ?  พวกเขากล่าวว่า : เอาซิ !  ท่านรอซูลกล่าวว่า : การรำลึกถึงอัลลอฮฺ”  (อัตติรมิซียฺ)15.             อิสติฆฟาร  (ขออภัยโทษ)  “ผู้ที่ขออิสติฆฟารอยู่เป็นประจำ  อัลลอฮฺจะเปลี่ยนจากความเศร้าหมองเป็นความเบิกบาน  จากความคับแคบให้มีทางออก  และจะประทานริซกีย์ให้แก่เขาอย่างที่ไม่คาดคิด”  (อะบูดาวุดและอัลนะสาอียฺ)16.             อาบน้ำละหมาดอย่างดี  “ผู้ใดที่ได้อาบน้ำละหมาดอย่างดีความผิดจะหลุดออกจากร่างกายของเขาแม้กระทั่งความผิดที่อยู่ในซอกเล็บ”  (มุสลิม)17.             กล่าวดุอาอฺหลังจากอาบน้ำละหมาด  “ผู้ใดที่ได้อาบน้ำละหมาดอย่างดีต่อจากนั้นเขาได้กล่าวว่า : อัชฮาดุอัลลาอิลาฮาอิลลัลลอฮฺ  วะฮฺดะฮูลาชะรีกาละฮฺ  วะอัชฮาดุอันนามุฮัมมะดันอับดุฮูวะรอซูลุฮฺ  อัลลอฮุมมัจญอันนีมินัตเตาวาบีน  วัจญอันนีมินัลมุตะเตาะฮิรีน - บรรดาประตูสวรรค์จะถูกเปิดให้แก่เขา  เขาสามารถเข้าทางประตูบานไหนก็ได้ตามที่เขาประสงค์” (มุสลิม)18.             พยายามรักษาน้ำละหมาดเอาไว้  “จงปฏิบัติให้เป็นประจำ  ตามที่ท่านมีความสามารถโดยไม่นับจำนวน  พวกท่านพึงทราบเถิดว่าการงานที่ประเสริฐสุดสำหรับพวกท่านคือการละหมาด  และไม่มีผู้ใดที่รักษาน้ำละหมาดเอาไว้นอกจากมุอ์มิน”  (อิบนุมาญะฮฺ)19.             ทำความสะอาดฟัน  “หากไม่เป็นความลำบากแก่ประชาชาติของฉัน  ฉันจะใช้พวกเขาแปรงฟันในทุกครั้งที่เขาละหมาด”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)20.             ละหมาดสองร็อกอัตหลังจากอาบน้ำละหมาด  “ไม่มีคนหนึ่งคนใดที่เขาได้อาบน้ำละหมาดอย่างดี  ต่อจากนั้นได้ละหมาดสองร็อกอัตด้วยกับหัวใจและกายที่มีความมุ่งมั่น  นอกจากจำเป็นแก่เขาได้รับสวนสวรรค์”  (มุสลิม)21.             กล่าวดุอาอฺหลังจากอะซาน  “ผู้ใดที่กล่าวขณะที่ได้ยินเสียงอะซานว่า   –  อัลลอฮุมมาร็อบบาฮาซิฮิดดะวะติตตามะ  วัศศอลาติลกออิมะฮฺ  อาติมุฮัมมะดานิลวะซีละฮฺวัลฟาฏีละฮฺ  วับอัซฮูมะกอมัน  มะฮฺมูดะนิลลาซีวะอัดตะฮฺ – ในวันกิยามะฮฺการช่วยเหลือของฉันจะเป็นที่อนุญาตแก่เขา” (อัลบุคอรียฺ)22.             การขอดุอาอฺระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺ  “การขอดุอาอฺระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺจะไม่ถูกปฏิเสธ”  (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)23.             ดำรงการละหมาด  5  เวลา  “ไม่มีมุสลิมคนใดได้ทำการละหมาดฟัรฏู  เขาอาบน้ำละหมาดอย่างดี  มีสมาธิอย่างดีและรูกั๊วะอย่างดี  นอกจากเขาจะถูกลบล้างความผิดเล็กๆ  ในปีที่ผ่านมาทั้งหมด”  (มุสลิม)24.             รักษาการละหมาดให้อยู่ในเวลา  “ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ถูกถามว่า : การงานใดประเสริฐที่สุด ?  ท่านรอซูลตอบว่า : การละหมาดในเวลา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)25.             รักษาละหมาดฟัจญรีและอัศรี  “ผู้ใดที่ได้ละหมาดบัรดัยนฺ  (ศุบฮิและอัศรี)  เขาจะได้เข้าสวนสวรรค์”  (อัลบุคอรียฺ)26.             รักษาละหมาดญุมอะฮฺ  “ระหว่างการละหมาดห้าเวลา  จากญุมอะฮฺถึงญุมอะฮฺ  จากเราะมะฎอนถึงเราะมะฎอน  พวกเขาจะถูกลบล้างความผิดให้  เมื่อเขาได้ออกห่างจากบาปใหญ่”  (มุสลิม)27.             พยายามแสวงหาช่วงเวลาที่ดุอาอฺถูกตอบรับในวันศุกร์  “ในวันศุกร์จะมีเวลาช่วงหนึ่งไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดตรงกับช่วงเวลานั้นในสภาพที่เขายืนละหมาดและร้องขอสิ่งใดต่ออัลลอฮฺนอกจากอัลลอฮฺจะให้สิ่งนั้นแก่เขา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)28.             อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟีในวันศุกร์  “ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟีในวันศุกร์  รัศมีจะส่องประกายแก่เขาในระหว่างวันศุกร์ถึงอีกวันศุกร์”  (อัลนะสาอียฺและอัลฮากิม)29.             การเดินไปมัสยิด  “ผู้ใดที่เดินไปมัสยิดในตอนเช้าและตอนบ่าย  อัลลอฮฺจะเตรียมที่พักให้แก่เขาในสวนสวรรค์  ทุกครั้งที่เขาเดินไปในตอนเช้าและตอนบ่าย”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)30.             การละหมาดในมัสยิดฮะรอม  “การละหมาดในในมัสยิดหลังนี้ประเสริฐกว่ามัสยิดอื่นๆ    1,000  ละหมาด  นอกจากมัสยิดฮะรอม  (มักกะฮฺ)  เพราะการละหมาดในมัสยิดฮารอมประเสริฐกว่าละหมาดในมัสยิดหลังนี้  100,000  ละหมาด”  (อะหฺมัดและอิบนิคุซัยมะฮฺ)31.             การละหมาดในมัสยิดนะบะวียฺ  (มะดีนะฮฺ)  “การละหมาดในในมัสยิดหลังนี้ประเสริฐกว่ามัสยิดอื่นๆ    1,000  ละหมาด  นอกจากมัสยิดฮะรอม”  (มุสลิม)32.             การละหมาดที่มัสยิดอัลอักศอ  “อย่าได้มุ่งมั่นตั้งใจใช้ความพยายามที่จะไปเยี่ยมสถานที่ต่างๆ  นอกจากสามมัสยิด คือ  มัสยิดฮะรอม  มัสยิดรอซูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  และมัสยิดอัลอักศอ”  (อัลบุคอรียฺ)33.             การละหมาดที่มัสยิดกุบาอฺ  “ผู้ใดที่ได้ละหมาดในมัสยิดกุบาอฺ  ภาคผลบุญเท่ากับการทำอุมเราะฮฺ”  (อิบนุหิบบาน)34.             รักษาการละหมาดญะมาอะฮฺ  “การละหมาดญะมาอะฮฺประเสริฐกว่าการละหมาดคนเดียวถึง  27  เท่า”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)35.             เอาใจใส่ต่อการละหมาดแถวแรก  “หากมนุษย์รู้คุณค่าของการอะซานและการละหมาดแถวแรก  ต่อจากนั้นพวกเขาจะไม่พบสถานที่นั้นนอกจากพวกเขาต้องจับสลาก แน่นอนพวกเขาย่อมจะจับฉลาก”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)36.             ละหมาดฏุฮาเป็นประจำ  “ทุกตอนเช้ากระดูกทุกข้อของพวกท่านได้ทำศอดาเกาะฮฺ  ทุกครั้งที่กล่าว ซุบฮานัลลอฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ  กล่าว อัลฮัมดุลิลลาฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺกล่าว ลาฮิลาฮะอิลลัลลอฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ  กล่าว อัลลอฮูอักบัร เป็นศอดาเกาะฮฺการใช้ให้ทำความดีเป็นศอดาเกาะฮฺ  การห้ามปรามจากความชั่วเป็นศอดาเกาะฮฺ  และเป็นการเพียงพอจากสิ่งต่างๆ  ที่กล่าวมาด้วยการละหมาดฏุฮาสองร็อกอัต”  (มุสลิม)37.             รักษาซุนนะฮฺเราะวาติบ  “ไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดที่ละหมาดเพื่ออัลลอฮฺในวันหนึ่ง  12  ร็อกอัตด้วยความสมัครใจนอกเหนือจากละหมาดฟัรฏู  ยกเว้นอัลลอฮฺจะสร้างบ้านหลังหนึ่งในสวนสวรรค์ให้แก่เขา”  (มุสลิม)38.              สร้างบรรยากาศในบ้านด้วยกับสิ่งที่เป็นซุนนะฮฺ  “จงละหมาด (ซุนนะฮฺ) ในบ้านของพวกท่าน  และอย่าทำบ้านให้เสหมือนกุโบรฺ”  (อัลบุคอรียฺ)39.             สุญูดให้มากๆ  “สภาพที่บ่าวใกล้ชิดต่อพระผู้อภิบาลของเขามากที่สุดคือ  ในสภาพที่เขาสุญูด  ดังนั้นจงขอดุอาอฺให้มาก”  (มุสลิม)40.             การนั่งในที่ละหมาดหลังจากละหมาดศุบฮฺเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮฺ  “ผู้ใดที่ได้ละหมาดญามาอะฮฺศุบฮฺหลังจากนั้นเขาได้นั่งรำลึกถึงอัลลอฮฺจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น  ต่อจากนั้นเขาได้ละหมาดสองร็อกอัต  เขาได้รับภาคผลบุญเท่ากับการทำฮัจญ์และอุมเราะฮฺ”  (อัตติรมิซียฺ)41.             การละหมาดและติดตามญะนาซะฮฺ  “ผู้ที่ได้เยี่ยมญะนาซะฮฺพร้อมทั้งละหมาดให้เขาได้รับผลบุญเท่าหนึ่งกีรอต  และผู้ที่เข้าร่วมจนกระทั่งฝังเขาจะได้รับผลบุญเท่าสองกีรอต  มีคนกล่าวว่า : สองกีรอตนี้เท่าไหร่ ?  ท่านรอซูลตอบว่า : เท่ากับภูเขาใหญ่สองภูเขา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)42.              การละหมาดที่บ้านสำหรับผู้หญิง  “พวกท่านอย่าได้ห้ามบรรดาผู้หญิงของพวกท่านไปละหมาดที่มัสยิด  และการละหมาดที่บ้านของพวกนางย่อมประเสริฐกว่า”  (อะบูดาวุด)43.             เอาใจใส่ต่อการละหมาดอีดในสนาม  (มุศ็อลลา)  “ปรากฏว่าท่านรอซูลออกไปละหมาดวันอีดิลฟิตรีและอีดิลอัฏฮาที่มุศ็อลลา”  (อัลบุคอรียฺ)44.             ฝึกฝนลูกหลานให้ละหมาด  “จงใช้ลูกหลานของพวกท่านให้ละหมาดขณะอายุของพวกเขาได้  7  ปี  และให้ตีพวกเขา  (หากขาด)  เมื่ออายุได้  10  ปี  และจงแยกที่นอนของพวกเขา”  (อะบูดาวุด)45.             ฝึกฝนลูกหลานให้ถือศิลอด  จากอัรรอบีอฺ  บินติ  มุเอาวัซ  กล่าวว่า: "พวกเราได้ถือศีลอดและฝึกฝนให้ลูกหลานของเราถือศีลอด  และเราได้ให้ของเล่นแก่พวกเขาเพื่อให้ลืมความหิวโหย”  (อัลบุคอรียฺ)  46.             ซิกรุลลอฮฺหลังจากละหมาดฟัรฏู  “ผู้ใดที่กล่าว ”ซุบฮานัลลอฮฺ” ทุกครั้งหลังละหมาด  33  ครั้ง  “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ”  33  ครั้ง  “อัลลอฮุอักบัร”  33  ครั้ง  รวมเป็น  99  ครั้ง  ต่อจากนั้นเขากล่าวว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ  วะฮฺดาฮูลาชะรีกาละฮฺ  ละฮุลมุลกุ  วะลาอุลฮัมดุ  วะฮูวาอะลากุลลีชัยอินกอดีร”  ความผิดของเขาจะถูกลบล้างถึงแม้จะมีมากเท่าฟองน้ำในทะเล”  (มุสลิม)47.             รักษาละหมาดตะรอเวี๊ยะ  “ละหมาดที่ประเสริฐสุดหลังจากละหมาดฟัรฏู คือ  ละหมาดในยามกลางคืน”  (มุสลิม)48.             ให้รีบในการละศีลอด  “มนุษย์จะยังคงอยู่ความดีงาม  ตราบใดที่พวกเขารีบเร่งในการละศีลอด”  (อัลบุคอรียฺ)49.             ให้ละศีลอดก่อนละหมาด  “ปรากฏว่าท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านจะละศีลอดก่อนที่ท่านจะละหมาด”  (อะหฺมัด)50.             ละศีลอดด้วยอินทผลัม   “ผู้ที่มีอินทผลัมก็จงละศีลอดกับมัน  หากไม่มีอินทผลัมก็จงละด้วยกับน้ำ  แท้จริงน้ำนั้นสะอาด”  (อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)51.             พยายามรักษาดุอาอฺขณะละศีลอด  “ซะฮะบัซซอมาอุ  วับตัลละติลอุรูกู  วะซะบะตัลอัจญรุ  อินชาอัลลอฮุตะอาลา”  (อะบูดาวุด , อัดดารุกุฏนียฺและอัลฮากิม)52.             ให้ขอดุอาอฺขณะที่จะละศิลอด  “แท้จริงสำหรับผู้ถือศิลอด  ขณะที่เขาจะละศิลอดการขอพรของเขาจะไม่ถูกปฏิเสธ”  (อิบนิมาญะฮฺ)53.             ขอดุอาอฺโดยทั่วไป  “แท้จริงอัลลอฮฺตรัสว่า : ฉันอยู่  ณ  ที่บ่าวของฉันเมื่อเขานึกถึงฉัน และฉันจะอยู่พร้อมกับเขา  (ใกล้ชิด)  เมื่อเขาร้องขอต่อฉัน”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)54.             รับประทานอาหารสะหูร  “พวกท่านจงรับประทานอาหารสะหูรเถิด  เพราะแท้จริงในสะหูรมีบารอกะฮฺ”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)55.             กล่าวสรรเสริญต่ออัลลอฮฺหลังจากรับประทานหรือดื่มเสร็จ  “แท้จริงอัลลอฮฺจะพอพระทัยต่อบ่าว  เมื่อเขารับประทานอาหารเขาได้กล่าวสรรเสริญหรือเมื่อเขาได้ดื่มเขาก็ได้กล่าวสรรเสริญ”  (มุสลิม)56.             จ่ายซะกาต  “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ  เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์เป็นผู้อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงและดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาตและนั่นคือศาสนาอันเที่ยงธรรม”  (อัลบัยยินะฮฺ : 5)57.             จ่ายซะกาตฟิตรี  “ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กำหนดซะกาตฟิตรีให้แก่ผู้ถือศีลอดเพื่อเป็นการชำระล้างจากเรื่องไร้สาระและการเกี้ยวพาราศรีและเป็นอาหารให้แก่คนยากจน  ผู้ที่จ่ายมันก่อนละหมาดอีดถือว่าเป็นซะกาตที่ถูกรับ  ส่วนผู้ที่จ่ายมันหลังจากละหมาดอีดถือว่าเป็นศอดาเกาะฮฺเหมือนกับศอดาเกาะฮฺทั่วไป”  (อะบูดาวุด)58.             การใช้จ่ายไปในหนทางของอัลลอฮฺ«وَمَا تُقَدِّمُوا لِأَنْفُسِكُمْ مِنْ خَيْرٍ تَجِدُوهُ عِنْدَ اللَّهِ إِنَّ اللَّهَ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌ»  “และความดีงามอันใดที่พวกเจ้าได้กระทำไว้ล่วงหน้าสำหรับตัวของพวกสูเจ้าเอง  พวกสูเจ้าก็จะได้พบมัน  ณ  ที่อัลลอฮฺ  แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้เห็นในสิ่งที่พวกสูเจ้ากระทำกันอยู่”  (อัลบากอเราะฮฺ : 110)59.             เศาะดะเกาะฮฺ  “การทำเศาะดะเกาะฮฺจะลบล้างความผิด  เสมือนการเอาน้ำดับไฟ”  (อัตติรมิซียฺ)60.             เศาะดะเกาะฮฺของผู้ที่มีเพียงเล็กน้อย  “โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺ!  เศาะดะเกาะฮฺประเภทใดที่ประเสริฐที่สุด ?  ท่านตอบว่า : การพยายามทำศอดาเกาะฮฺของผู้ที่มีเพียงเล็กน้อยและเริ่มจากผู้ที่อยู่ภายใต้การรับผิดชอบดูแล”  (อะบูดาวุด , อิบนิคุซัยมะฮฺและอัลฮากิม)61.             เศาะดะเกาะฮฺในที่ลับ  “การกระทำดีจะปกป้องการเกิดความชั่วและการเศาะดะเกาะฮฺในที่ลับจะมาลบล้างความกริ้วโกรธแห่งพระผู้อภิบาล  และการสร้างปฏิสัมพันธ์กับเครือญาติจะทำให้อายุยืน”  (อัฏฏอบรอนียฺ)62.             ความประเสริฐของผู้ทำหน้าที่จัดเก็บเศาะดะเกาะฮฺ  “แท้จริงผู้เฝ้ากองคลังมุสลิมที่มีความซื่อสัตย์  ซึ่งเขาได้ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์และเขาได้แจกจ่ายมันไปให้แก่ผู้ที่มีสิทธิที่ได้รับด้วยความบริสุทธ์ใจ  เขาก็เป็นผู้หนึ่งจากจากบรรดาผู้บริจาคทาน”   (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)63.             สร้างมัสยิด “ผู้ที่ได้สร้างมัสยิดโดยแสวงหาความพอพระทัยจากอัลลอฮฺ  จะถูกสร้างเหมือนกับมัสยิดให้แก่เขาในสวนสวรรค์”  (อัลบุคอรียฺ)64.             ให้สลามและแจกจ่ายอาหาร  “โอ้บรรดามนุษยชาติ ! จงให้สลาม  แจกจ่ายอาหาร  ติดต่อเครือญาติ  และจงละหมาดในยามค่ำคืนขณะที่มนุษย์นอนหลับ  แล้วท่านจะได้เขาสวนสวรรค์อย่างสันติภาพ”  (อัตติรมิซียฺ)65.             ขจัดสิ่งที่เป็นอันตรายออกจากถนน  “ฉันเห็นชายคนหนึ่งกำลังเพลิดเพลินในสวนสวรรค์เพราะต้นไม้ต้นหนึ่งที่เขาได้ตัดออกจากท้องถนน  ซึ่งมันได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนที่สัญจรไปมา”  (มุสลิม)66.             ทำดีและเชื่อฟังต่อบิดามารดา  “น่าเวทนา  น่าเวทนา  น่าเวทนา  มีคนกล่าวว่า : ใครกันท่านรอซูลุลลอฮฺ ? ท่านรอซูลตอบว่า : ผู้ที่มีชีวิตช่วงที่พ่อแม่ของเขาคนหนึ่งคนใดแก่ชราหรือทั้งสองคน  แต่เขากลับไม่ได้รับสวนสวรรค์”  (มุสลิม)67.             ภรรยาปฏิบัติตามและเชื่อฟังต่อสามี  “เมื่อภรรยาได้ละหมาดห้าเวลา  ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน  รักษาอวัยวะเพศและเชื่อฟังสามีของเธอ  สามารถเลือกเข้าประตูสวรรค์บานไหนก็ได้ตามความประสงค์”  (อิบนุมาญะฮฺ)68.             แสวงหาปัจจัยยังชีพที่หะลาลและทำงานด้วยตัวเอง  “ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ถูกถามว่า : การแสวงหาปัจจัยยังชีพอย่างไรที่ดีที่สุด ?  รอซูลตอบว่า : การที่คนๆ  หนึ่งทำงานด้วยตัวเองและทุก ๆ แสวงหาในสิ่งที่ดี”  (อัลฮากิม)69.             เลี้ยงดูภรรยาและผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครอง  “เมื่อมุสลิมได้จ่ายค่าเลี้ยงดูให้แก่ผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขา  ในสภาพที่เขาคาดหวังผลบุญเท่ากับเขาได้เศาะดะเกาะฮฺ”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)70.             เลี้ยงดูหญิงหม้ายและคนยากจน  “ผู้ที่เลี้ยงดูหญิงหม้ายและคนยากจน  เปรียบเสมือนผู้ที่ออกต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ”  และฉันคิดว่าท่านพูดว่า  “เปรียบเสมือนคนยืนละหมาดไม่หยุดพักหรือผู้ที่ถือศิลอดโดยไม่ละ”  (อัลบุคอรียฺ)71.             อุปถัมภ์และเลี้ยงดูเด็กกำพร้า  “ฉันและผู้ที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าในสวนสวรรค์จะอยู่กันอย่างนี้”  ท่านพูดโดยที่ชูนิ้วกับนิ้วกลาง  (หมายถึงอยู่กันอย่างใกล้ชิด)  (อัลบุคอรียฺ)72.             ลูบศรีษะและแสดงความเอ็นดูต่อเด็กกำพร้า  มีชายคนหนึ่งร้องทุกข์กับท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ว่าเขามีหัวใจที่แข็งกระด้าง  ท่านรอซูลตอบว่า : “จงลูบศรีษะเด็กกำพร้าและจงให้อาหารกับคนยากจน”  (อะหฺมัด)73.             เป็นธุระให้กับพี่น้องที่มีความจำเป็น  “การที่คนหนึ่งคนใดในกลุ่มพวกท่านเดินไปกับพี่น้องเพื่อช่วยปลดเปลื้องความจำเป็นให้กับเขา – และท่านได้ชี้นิ้วไปยังมัสยิด – ประเสริฐกว่าการที่เขาเอิ๊ยะติกาฟในมัสยิดของฉันถึงสองเดือน”  (อัลฮากิม)74.             เยี่ยมเยียนพี่น้องเพื่ออัลลอฮฺ  “นบีได้เข้าสวรรค์  ผู้ที่อีมานอย่างแท้จริงได้เข้าสวรรค์และผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องของเขาอีกเมืองหนึ่งโดยที่เขาไม่ได้เยี่ยมเพื่อสิ่งใดนอกจากเพื่ออัลลอฮฺจะได้เข้าสวนสวรรค์”  (อัฏฏอบรอนียฺ) 75.             เยี่ยมเยียนผู้ป่วย  “ผู้ที่ไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยเขายังคงอยู่ใน ค็อรฟะตุลญันนะฮฺ  มีคนกล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูล ค็อรฟะตุลญันนะฮฺคืออะไร ? ท่านรอซูลตอบว่า : ส่วนปีกของสวรรค์”  (มุสลิม)76.             ติดต่อเครือญาติถึงแม้ว่าเขาตัดสายสัมพันธ์  “เครือญาติถูกผูกติดอยู่กับบัลลังก์  เครือญาติกล่าวว่า : ใครติดต่อกับฉันอัลลอฮฺจะติดต่อกับเขา  และใครที่ตัดสัมพันธ์กับฉันอัลลอฮฺจตัดสัมพันธ์กับเขา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)77.             มอบความเปี่ยมสุขให้แก่พี่น้องมุสลิม  “ผู้ใดที่พบพี่น้องมุสลิมของเขาด้วยกับสิ่งที่เขารักเขามีความสุขกับสิ่งดังกล่าว  ในวันกิยามะฮฺอัลลอฮฺจะประทานความสุขให้แก่เขา”  (อัฏฏอบรอนียฺ)78.             ให้ความสะดวกแก่ผู้ที่มีความลำบากยากแค้น  “ผู้ใดที่ให้ความสะดวกแก่ผู้ที่มีความลำบากยากแค้น  อัลลอฮฺจะให้ความสะดวกกับเขาทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ”  (มุสลิม)79.             ลดหย่อนภารกิจต่อคนรับใช้หรือคนงานในช่วงเดือนเราะมะฎอน  “ผู้ใดที่ลดภาระให้แก่ทาสของเขา  อัลลอฮฺจะอภัยโทษให้แก่เขาและจะปลดปล่อยเขาให้รอดพ้นจากไฟนรก”  (ส่วนหนึ่งของหะดีษอิบนุคุซัยมะฮฺ)80.             อ่อนโยนเมตตาต่อผู้ที่มีความอ่อนแอ  “บรรดาผู้ที่มีความเมตตาอาทร  ผู้กรุณาปราณีจะเมตตาต่อพวกเขา  พวกท่านจงเมตตาอาทรต่อผู้ที่อยู่บนผืนดินแล้วผู้ที่อยู่บนชั้นฟ้าจะเมตตาต่อพวกท่าน”  (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)81.             ปรับความเข้าใจในระหว่างเพื่อนมนุษย์  “ฉันเคยบอกพวกท่านถึงสิ่งที่มีความประเสริฐกว่าการละหมาด  การถือศีลอด  และการบริจาคทานหรือไม่ ? พวกเขาตอบว่า : ยังเลยท่านรอซูลุลลอฮฺ  ท่านรอซูลกล่าวว่า : การปรับความเข้าใจระหว่างคนทั้งสอง”  (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)82.             มีจรรยามารยาทอันดีงาม  “ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ถูกถามถึงสิ่งที่ทำให้มนุษย์ส่วนมากได้เข้าสวรรค์ ? ท่านตอบว่า : การยำเกรงต่ออัลลอฮฺและการมีจรรยามารยาทอันดีงาม”  (อัตติรมิซียฺ)83.             การมีความละอาย  “ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา  และการศรัทธานั้นอยู่ในสวนสวรรค์  ความหยาบกระด้างเป็นส่วนหนึ่งของความเลวและความเลวนั้นอยู่ในนรก”  (อะหฺมัด , อิบนิฮิบบานและอัตติรมิซียฺ) 84.             การพูดจริง  “จำเป็นแก่พวกท่านต้องพูดจริง  เพราะการพูดจริงจะนำพาไปสู่ความดีและความดีจะนำไปสู่สวนสวรรค์”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)85.             มีความสุขุมให้อภัยและมีความอดทนอดกลั้นوَالْكَاظِمِينَ الْغَيْظَ وَالْعَافِينَ عَنِ النَّاسِ وَاللَّهُ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ  “และบรรดาผู้ที่อดกลั้นและบรรดาผู้ที่ให้อภัยแก่เพื่อนมนุษย์  และอัลลอฮฺนั้นทรงรักบรรดาผู้ที่กระทำความดี”  (อาละอิมรอน : 134)  ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวกับอัลอะชัชญฺว่า  “แท้จริงในตัวของท่านมีสองลักษณะที่พระองค์ทรงรัก  ความเมตตาสงสารและความสุขุมรอบคอบ  (มุสลิม)86.             การจับมือทักทาย  “ไม่มีมุสลิมสองคนเมื่อเขาทั้งสองคนได้พบกันแล้วจับมือ  นอกจากจะถูกอภัยโทษให้ทั้งสองก่อนที่เขาทั้งสองจะแยกย้าย”  (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)87.             มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเบิกบาน  “พวกท่านอย่าได้ดูถูกความดีอันใด  ถึงแม้ว่าการที่ท่านพบพี่น้องของท่านด้วยกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม”  (มุสลิม)88.             มีความใจกว้างในการซื้อขาย  “อัลลอฮฺจะเมตตาต่อบุคคลที่มีความใจกว้างเมื่อเขาขายหรือเมื่อเขาซื้อและเมื่อเขาผ่อนผัน  ”  (อัลบุคอรียฺ)89.             ลดสายตาจากการมองสิ่งฮารอม  “การมองเป็นลูกศรอาบยาพิษของอิบลีส  ผู้ที่ละทิ้งเนื่องจากเกรงกลัวต่อฉัน  ฉันจะทดแทนการอีมานให้แก่เขา  เขาจะได้พบความหอมหวานของอีมานเกิดขึ้นในหัวใจของเขา”  (อัฏฏอบรอนียฺ)90.             ใช้กันในเรื่องของความดีงามและห้ามปรามในเรื่องความไม่ดี  “เมื่อคนหนึ่งคนใดในกลุ่มพวกท่านเห็นสิ่งที่ไม่ดี  เขาจงเปลี่ยนมันด้วยมือหากเขาไม่มีความสามารถจงเปลี่ยนด้วยกับลิ้น  หากเขาไม่มีความสามารถจงเปลี่ยนด้วยกับหัวใจซึ่งถือว่าเป็นการอีมานขั้นอ่อนที่สุด”  (มุสลิม)91.             อยู่ร่วมกับบรรดาคนดี  “ไม่มีกลุ่มชนใดที่นั่งรวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮฺนอกจากมะลาอิกะฮฺมาห้อมล้อมพวกเขา  ความเมตตาจะมาแผ่คลุมและความสงบนิ่งจะถูกประทานลงมายังพวกเขา  และอัลลอฮฺจะกล่าวถึงพวกเขากับผู้ที่อยู่ ณ พระองค์”  (มุสลิม)92.             ปกป้องลิ้นและอวัยวะเพศ  “ผู้ใดที่รับประกันสิ่งที่อยู่ระหว่างเคราทั้งสอง (ปาก)  และสิ่งที่อยู่ระหว่างขาทั้งสอง (อวัยวะเพศ) กับฉันได้  ฉันจะรับประกันสวนสวรรค์ให้แก่เขา”    (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)93.             กล่าวศอละวาตแก่ท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม  “ผู้ใดที่กล่าวศอละวาตให้แก่ฉันหนึ่งครั้ง  อัลลอฮฺจะให้กล่าวให้กับเขาสิบครั้ง”  (มุสลิม)94.             ทำความดีและชี้นำไปสู่ความดีงาม “ทุกความดีงามเป็นศอดาเกาะฮฺ  และผู้ที่ชี้นำไปสู่ความดีเขาได้รับผลบุญเหมือนผู้ที่กระทำ”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)  “ผู้ที่ชี้นำไปสู่ความดีงาม  เขาจะได้รับผลบุญเหมือนกับผู้กระทำ”  (มุสลิม)95.             การเรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ  “ผู้ที่เชิญชวนไปสู่ทางนำเขาจะได้รับผลบุญเหมือนผู้ที่ปฏิบัติ  โดยที่ผลบุญของผู้กระทำไม่ได้ลดหย่อนแต่ประการใด”  (มุสลิม)96.             ปกปิดความลับของผู้อื่น  “บ่าวคนหนึ่งจะไม่ปกปิดความลับของบ่าวอีกคนในดุนยา  นอกจากอัลลอฮฺจะปกปิดความลับให้แก่เขาในอาคิเราะฮฺ”  (มุสลิม)97.             ให้มีความอดทน  “ไม่มีมุสลิมคนใดที่ประสบกับความเคราะห์ร้าย  การเจ็บไข้  กลัดกลุ้มใจ  เสียใจ  อันตราย  ทุกข์ระทมหรือแม้กระทั่งถูกหนามตำนอกจากอัลลอฮฺจะลบล้างจากความผิดให้แก่เขา”  (อัลบุคอรียฺ)98.             กล่าวดุอาอฺลบล้างความผิดหลังจากการชุมนุมรวมตัว  “ผู้ที่นั่งรวมตัวกันที่หนึ่งที่ใด แล้วมีเรื่องไร้สาระมากมาย  ดังนั้นเขากล่าวก่อนที่จะลุกขึ้นจากที่รวมตัวของเขาว่า – สุบฮานะกัลลอฮุมมาวะบิฮัมดิกะ  อัชฮะดุอัลลาฮิลาฮาอิลลาอันตา  อัสตัฆฟิรุกาวะอะตูบุอิลัยกา – นอกจากเขาจะได้รับการอภัยโทษจากสิ่งที่เกิดขึ้นในการรวมตัวของเขา”  (อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ) 99.             ละหมาดสองร็อกอัตเมื่อกระทำความผิด  “ไม่มีบ่าวคนใดได้ทำความผิดจากนั้นเขาได้ทำความสะอาด  แล้วเขาลุกขึ้นยืนและละหมาดสองร็อกอัตและขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ  นอกจากเขาจะถูกให้อภัยโทษ”  (อะบูดาวุด)100.         อบรมเลี้ยงดูบรรดาบุตรสาว  “ผู้ที่มีบุตรสาวสามคน  เขาได้เลี้ยงดู  เมตตาอาทรและอุปถัมภ์เลี้ยงดูพวกเธอและแน่นอนสวนสวรรค์เป็นสิ่งจำเป็นแก่เขา”  (อะหฺมัด)101.          ทำความดีต่อสัตว์เดรัจฉาน  “มีชายคนหนึ่งเห็นสุนัขกำลังเลียดินเปียกน้ำเนื่องจากความกระหาย  ดังนั้นชายคนนั้นได้เอาคุฟ  (รองเท้าหนัง)  ใส่น้ำจนกระทั่งให้มันได้ดื่มจนสามารถดับกระหาย  อัลลอฮฺได้ขอบใจต่อการกระทำของเขาและได้ให้เขาเข้าสวนสวรรค์”  (อัลบุคอรียฺ)102.         ไม่ร้องขอสิ่งใดจากมนุษย์  “ผู้ใดที่รับประกันฉันจะไม่ร้องขอสิ่งใดจากมนุษย์  ฉันจะรับประกันสวนสวรรค์ให้แก่เขา”  (อัศฮาบสุนัน)103.         การกล่าว ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ และ สุบฮานัลลอฮฺ  “ผู้ที่กล่าวว่า - ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ  วะฮฺดะฮุละชะรีกะละ  ละอุลมุลกุวะละอุลฮัมดุ  วะฮุวาอะลากุลลีชัยอินกอดีร - ในวันหนึ่ง  100  ครั้ง  เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับปล่อยทาส  10  คน  ถูกบันทึกให้แก่เขา  100  ความดีและลบล้างให้แก่เขา  100  ความชั่วและในวันนั้นเขาจะถูกปกป้องให้รอดพ้นจากชัยฏอนจนกระทั่งตกเย็น  และไม่มีผู้ใดทำสิ่งที่ประเสริฐกว่าเขานอกจากผู้ที่ได้กระทำมากกว่าเขา”  “ผู้ใดกล่าวว่า สุบฮานัลลอฮฺ  วะบิฮัมดิ ในวันหนึ่ง  100  ครั้ง  จะถูกลบล้างความผิดแก่เขาถึงแม้มีเหมือนกับน้ำทะเล” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)104.         เศาะดะเกาะฮฺ ญาริยะฮฺ  “เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลงการงานทั้งหมดของเขาจะถูกตัดขาดนอกจาก  3  ประการคือ  การเศาะดะเกาะฮฺ ญาริยะฮฺ  ความรู้ที่ยังประโยชน์และลูกที่ดีขอดุอาอฺให้แก่พ่อแม่”  (มุสลิม)105.         ส่งเสริมให้ผู้หญิงบริจาคทาน  “โอ้บรรดาผู้หญิงจงบริจาคทาน  ถึงแม้ว่าเป็นบางส่วนจากเครื่องประดับของพวกเธอก็ตาม”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)106.         ภรรยาบริจาคสิ่งของจากบ้านของสามี  “เมื่อภรรยาได้บริจาคอาหารที่ดีจากบ้านของนาง  นางได้รับผลบุญจากการบริจาคและสามีของนางได้รับผลบุญจากการแสวงหา  และสำหรับผู้เฝ้ากองคลังก็เช่นกัน  พวกเขาบางคนจะไม่ลดหย่อนผลบุญของอีกบางคนแต่ประการใด”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)107.         เป็นมือบนดีกว่าเป็นมือล่าง  “เป็นมือบนดีกว่าเป็นมือล่าง  มือบนคือผู้ให้ส่วนมือล่างคือผู้ขอ”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)108.         ซื่อสัตย์ในการซื้อการขาย  “ผู้ซื้อและผู้ขายมีสิทธิในการเลือกตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่แยกย้าย  หากทั้งสองฝ่ายมีความซื่อสัตย์และเปิดเผยการซื้อขายก็มีความบารอกะฮฺและหากทั้งสองฝ่ายคดโกงปกปิด ความบารอกะฮฺจะหมดไปจากการซื้อขายของทั้งสองฝ่าย” (อัลบุคอรียฺ)109.         ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิม  “ผู้ที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ให้แก่มุสลิมในดุนยา  อัลลอฮฺจะช่วยบรรเทาความทุกข์ให้แก่เขาในอาคิเราะฮฺ”  (มุสลิม)110.         ไม่ทำความเดือดร้อนแก่พี่น้องมุสลิม  “ท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม  ถูกถามว่า : สิ่งที่ประเสริฐสุดในอิสลามคืออะไร ?  ท่านรอซูลตอบว่า : ผู้ที่มุสลิมปลอดภัยจากลิ้นและมือของเขา”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)111.         ให้การช่วยเหลือแก่ผู้อื่น  “ในทุกวันทุกข้อกระดูกสามารถเป็นการทำบริจาคทาน  การที่เขาช่วยชายคนหนึ่งให้ขึ้นพาหนะของเขาหรือการที่เขาช่วยยกสิ่งของวางบนพาหนะเป็นการบริจาคทาน”  (อัลบุคอรียฺ)112.         ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมที่ต้องการความช่วยเหลือ  “พวกท่านจงช่วยเหลือ แล้วพวกท่านจะได้รับผลบุญ  และอัลลอฮฺจะตัดสินผ่านคำพูดของท่านนบีของพระองค์ตามที่พระองค์ประสงค์” (อัลบุคอรียฺ)113.         ติดต่อทำความดีต่อเพื่อนฝูงของบิดามารดา  “แท้จริงสุดยอดของการทำความดีคือ  การที่ลูกติดต่อกับเพื่อนรักของบิดาเขา”  (มุสลิม)114.         การใช้คำพูดที่ดี  “พึงระวังไฟนรก  ถึงแม้ว่าเป็นอินทผลัมเพียงซีกเดียว  หากว่าพวกท่านไม่มีก็ให้พูดดี” (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)115.         อ่อนโยนเมตตาต่อผู้อยู่ภายใต้การปกครองและคนงาน  “โอ้อัลลอฮฺเมื่อประชาชาติของฉันได้รับการแต่งตั้งงานหนึ่งงานใดแล้วเขาได้สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครองขอให้ความลำบากจงประสบกับเขา  และเมื่อประชาชาติของฉันได้รับการแต่งตั้งงานหนึ่งงานใดเขาได้ให้ความเมตตาให้แก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครองขอพระองค์จงเมตตาต่อเขา”  (มุสลิม)116.         ประกอบความดีอยู่เป็นนิจ แม้จะน้อยนิดก็ตาม  “การงานที่เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺคืองานที่ทำประจำแม้เพียงเป็นสิ่งเล็กน้อย” (มุสลิม)117.         ทำดีต่อเพื่อนบ้าน  “ผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันกิยามะฮฺ  ดังนั้นจงให้เกียรติต่อเพื่อนบ้านของเขา”  (มุสลิม)118.         ต้อนรับแขกผู้มาเยือน  “การต้อนรับแขกในคืนแรกเป็นหน้าที่ของมุสลิม  ดังนั้นเมื่อตอนเช้าผ่านไปเป็นหนี้แก่เขา  หากเขามีความประสงค์ให้ชดใช้และหากเขาประสงค์ให้ละทิ้ง”  (อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอิบนิมาญะฮฺ)119.         การขอดุอาอฺให้แก่บิดามารดา  “แท้จริงอัลลอฮฺจะยกระดับชั้นในสวนสวรรค์ให้แก่บ่าวที่ศอลิฮฺ  มีคนกล่าวว่า : โอ้พระผู้อภิบาลเป็นไปได้อย่างไร ? ท่านรอซูลตอบว่า : ด้วยกับการที่ลูกของท่านขออิสติฆฟารให้กับท่าน”  (อะหฺมัด)120.         ขอดุอาอฺให้กับพี่น้องในเวลาลับหลัง  “ไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดขอดุอาอฺให้กับพี่น้องในเวลาลับหลัง  นอกจากมะลักกล่าวว่า : สำหรับท่านได้เหมือนเขา”  (มุสลิม)121.         ขอดุอาอฺและอิสติฆฟารให้แก่พี่น้องมุสลิม «وَالَّذِينَ جَاءُوا مِنْ بَعْدِهِمْ يَقُولُونَ رَبَّنَا اغْفِرْ لَنَا وَلِإِخْوَانِنَا الَّذِينَ سَبَقُونَا بِالْإِيمَانِ وَلَا تَجْعَلْ فِي قُلُوبِنَا غِلًّا لِلَّذِينَ آَمَنُوا رَبَّنَا إِنَّكَ رَءُوفٌ رَحِيمٌ» “และบรรดาผู้ที่มาหลังจากพวกเขา โดยพวกเขากล่าวว่า  ข้าแต่พระเจ้าของเราทรงโปรดอภัยให้แก่เราและพี่น้องของเราผู้ซึ่งศรัทธาก่อนหน้าเรา  และขอพระองค์อย่าได้ให้มีการเคียดแค้นเกิดขึ้นในหัวใจของเราต่อบรรดาผู้มีอำนาจเหนือผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์  และอัลลอฮเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง"  (อัลฮัชรฺ : 10)122.         ทำความสะอาดมัสยิด«وَطَهِّرْ بَيْتِيَ لِلطَّائِفِينَ وَالْقَائِمِينَ وَالرُّكَّعِ السُّجُودِ»  “และจงทำบ้านของฉันให้มีความสะอาดสำหรับผู้ที่มาเดินเวียนรอบ  ผู้ยืนละหมาด  ผู้รุกัวะ  และผู้สุญูด”  (อัลฮัจญฺ : 26) 123.         ทำความดีต่อคู่ครอง  “ผู้ประเสริฐที่สุดในกลุ่มพวกท่านคือผู้ที่ทำดีต่อสมาชิกในครอบครัวของเขา  และฉันเป็นผู้ที่ทำดีต่อครอบครัวของฉัน”   (อิบนุฮิบบานและคนอื่นๆ)124.         ให้ความง่ายดายในเรื่องสินสอดแก่ผู้ทีจะแต่งงาน  “การแต่งงานที่ประเสริฐที่สุดคือการแต่งที่มีความง่ายที่สุด”  (อิบนุฮิบบาน)125.         หึงหวงต่อภรรยา  “สะอฺดุ  บิน  อุบาดะฮฺกล่าวว่า : หากฉันเห็นชายคนหนึ่งอยู่กับภรรยาของฉัน  ฉันจะฆ่าเขาด้วยกับดาบโดยไม่ให้อภัย  ข่าวดังกล่าวไปถึงท่านรอซูล  ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านกล่าวว่า : “พวกท่านแปลกใจต่อการหึงหวงของสะอฺดุหรือ ? ตัวฉันมีความหึงหวงมากกว่าเขาเสียอีกและอัลลอฮฺยิ่งมีความหึงหวงมากกว่าฉันอีก”  (อัลบุคอรียฺ)126.         อบรมสั่งสอนสมาชิกในครอบครัว  “บุคคลสามจำพวกที่ได้รับสองผลบุญ ... ผู้ที่มีทาสดังนั้นเขาได้อบรมนางทำให้นางมีความเข้าใจเป็นอย่างดี  เขาได้สั่งสอนนางทำให้นางรู้เป็นอย่างดีต่อจากนั้นเขาได้ปล่อยนางให้เป็นอิสระแล้วได้แต่งงานกับนางเขาจะได้รับสองผลบุญ”  (อัลบุคอรียฺ)127.          คืนสิทธิที่ลิดรอนมาจากผู้อื่นหรือขออภัยจากเจ้าของสิทธิ  “ผู้ที่เคยลิดรอนสิทธิผู้อื่นจงขออภัยจากเจ้าของสิทธิ  เพราะแท้จริงในอาคิเราะฮฺเขาจะไม่มีดีนารและดิรฮัมก่อนที่เขาจะถูกเอาความดีที่มีให้แก่พี่น้องของเขา  หากเขาไม่มีความดีก็จะถูกเอาความชั่วของพี่น้องมาใส่ให้กับเขา”  (อัลบุคอรียฺ)128.         ปฏิบัติความดีเพื่อลบล้างความชั่ว  “จงยำเกรงอัลลอฮฺไม่ว่าท่านอยู่หนใด  และจงติดตามความชั่วโดยการเอาความดีมาลบล้าง  และจงคบค้าสมาคมกับผู้อื่นด้วยกับจรรยามารยาอันดีงาม”  (อะหฺมัดและอัลฮากิม)129.         ทำความดีต่อน้าสาวน้าชาย  “น้าสาวอยู่ในตำแหน่งของมารดา”  (อัลบุคอรียฺ)130.         รักษาอะมานะฮฺและทำตามสัญญา  “ยังไม่มีอีมานที่สมบูรณ์สำหรับผู้ที่ไม่มีอะมานะฮฺ  และยังไม่มีศาสนาสำหรับผู้ที่ไม่รักษาสัญญา”  (อะหฺมัด)131.         เมตตาต่อผู้เยาว์และให้เกียรติต่อผู้ใหญ่  “ไม่ใช่พวกของเราผู้ที่ไม่เมตตาต่อผู้เยาว์ของเราและไม่รู้จักสิทธิของผู้ใหญ่ของเรา”  (อะหฺมัดและอัตติรมิซียฺ)132.         มีความอ่อนโยนเมตตาต่อบรรดาพี่น้องมุสลิมและให้ความสำคัญต่อกิจการของพวกเขา  ”อุปมาบรรดาผู้ศรัทธาในเรื่องของความรัก  ความเมตตา  ความอ่อนโยนระหว่างพวกเขา  อุปมัยเหมือนกับร่างกายเมื่ออวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดเจ็บป่วยมันจะทำให้อวัยวะส่วนอื่นอดหลับนอนและเจ็บป่วยไปด้วย”  (อัลบุคอรียฺและมุสลิม)133.         นิ่งเฉยและป้องกันการพูดเรื่องไร้สาระ  “ผู้ใดที่อีมานต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ  จงพูดในสิ่งที่ดีหรือไม่ก็ให้นิ่งเสีย”  (อัลบุคอรียฺ)134.         ปกป้องเกียรติของพี่น้องมุสลิม  “ผู้ที่ปกป้องเกียรติของพี่น้องของเขา  ในวันกิยามะฮฺอัลลอฮฺจะปกป้องใบหน้าเขาให้รอดพ้นจากไฟนรก”  (อัตติรมิซียฺ)135.         หัวใจบริสุทธิ์และงดเว้นจากการอิจฉาริษยา  “ประตูสวนสวรรค์จะถูกเปิดในวันจันทร์และวันพฤหัส  ดังนั้นบ่าวทุกคนที่ไม่ตั้งภาคีอันใดต่ออัลลอฮฺจะได้รับการอภัยโทษนอกจากคนที่อิจฉาริษยาพี่น้อง  มีเสียงกล่าวขึ้นว่า : จงรอดูทั้งสองคนนี้ไปก่อนจนกว่าทั้งสองจะดีกัน  จงรอดูทั้งสองคนนี้ไปก่อนจนกว่าทั้งสองจะดีกัน  จงรอดูทั้งสองคนนี้ไปก่อนจนกว่าทั้งสองจะดีกัน”  (มุสลิม)136.         มีความยุติธรรมระหว่างมนุษย์ด้วยกัน  “ในทุกวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทุกข้อกระดูกของมนุษย์เป็นการบริจาคทาน  การมีความยุติธรรมระหว่างเพื่อนมนุษย์เป็นการบริจาคทาน”  (อัลบุคอรียฺ) 137.         ให้ความร่วมมือกับพี่น้องมุสลิมในเรื่องความดีงาม«وَتَعَاوَنُوا عَلَى الْبِرِّ وَالتَّقْوَى وَلَا تَعَاوَنُوا عَلَى الْإِثْمِ وَالْعُدْوَانِ»  “และพวกสูเจ้าจงช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นคุณธรรมและความยำเกรง  และอย่าได้ช่วยเหลือกันในเรื่องที่เป็นบาปและเป็นศรัตรูซึ่งกันและกัน...”  (อัลมาอิดะฮฺ : 2)  “มุอ์มินกับมุอ์มินเปรียบเสมือนอาคารบ้านเรือนที่ยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกัน” - แล้วท่านได้เอานิ้วมือประสานกัน -  (อัลบุคอรียฺ)138.         ให้การช่วยเหลือผู้ที่มีความเดือดร้อน  “มุสลิมทุกคนสามารถทำเศาะดะเกาะฮฺได้...การที่เขาช่วยเหลือผู้ที่มีความจำเป็นเดือดร้อน”  (อัลบุคอรียฺ)139.         ตอบรับผู้ที่เชิญชวนไปสู่ความดีและแบ่งปันแก่ผู้ที่ร้องขอ  “ผู้ที่ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺจงปกป้องเขา  ผู้ที่ขอเพื่อแนวทางของอัลลอฮฺจงให้เขา  ผู้ที่เชิญชวนพวกท่านจงตอบรับการเชิญชวนของเขาและผู้ที่ทำความดีต่อท่านจงทำความดีให้เสมือนกับเขา”  (อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอันนะสาอียฺ) 140.         ตอบแทนความดีด้วยการทำเหมือนที่เขาได้กระทำ  “ใครที่ได้ทำความดีต่อเขาจงตอบแทนเขา  หากไม่มีสิ่งตอบแทนจงขอบคุณสรรเสริญต่อเขา  แท้จริงเมื่อได้สรรเสริญเท่ากับขอบคุณต่อเขาและหากปิดบังเท่ากับเนรคุณต่อเขา”  (อัลบุคอรียฺในหนังสือ อัลอะดับ อัลมุฟร็อด)141.         แจกจ่ายหนังสือหรือม้วนเทปเกี่ยวกับเรื่องอิสลามที่ให้ประโยชน์ต่อสมาชิกในครอบครัว  หรือเพื่อนฝูงในที่ทำงาน  ในโรงเรียนและในที่สาธารณะอื่นๆ142.         เอาประโยชน์จากผู้ที่นิยมใช้การติดต่อสื่อสาร  ซึ่งพวกเขาได้ระบุชื่อในวารสาร  หรือทางวิทยุทั้งภาคภาษาอาหรับและภาษาต่างประเทศ  โดยการติดต่อด้วยกับสำนวนอบรมสั่งสอน  (ตัรบียะฮฺ)  อย่างอ่อนโยนและส่งผลในการตอบรับ143.         ให้ความสนใจต่อข่าวคราวเพื่อนบ้าน  คนใกล้ชิด  โดยสร้างข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านเผยแผ่  ให้ความสำคัญกับกิจการงานของพวกเขาทั้งในเรื่องดุนยาและอาคิเราะฮฺ144.         ประสานงานกับนักธุรกิจหรือบรรดาพ่อค้า  เพื่อซื้อเสื้อผ้าและสิ่งที่จำเป็นที่ต้องใช้ในวันอีด  แล้วนำไปแจกจ่ายในตอนท้ายของเดือนเราะมะฎอนให้กับคนขัดสนยากจนเพื่อให้พวกเขาได้รับความเปี่ยมสุขในวันอีด145.         ส่งเสริมให้ทุกครอบครัวมีส่วนร่วมในการเลี้ยงอาหารละศีลอดตามอัตตภาพที่สามารถกระทำได้  ทำอาหารที่สะดวกนำไปเลี้ยงที่มัสยิดในชุมชนหรือติดต่อประสานงานกับร้านอาหารเพื่อนำมาเลี้ยงผู้ที่ถือศิลอด146.         ทำฮาลาเกาะฮฺที่มัสยิดในหมู่บ้านเพื่อสอนอัลกุรอานให้แก่ลูกหลาน  โดยแต่งตั้งครูให้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะพร้อมทั้งส่งเสริมให้เด็กๆ  แข่งขันกันในเรื่องคุณธรรมและสนับสนุนเรื่องของขวัญรางวัลให้แก่พวกเขา147.         จัดให้มีบทเรียนขึ้นภายในบ้านประจำสัปดาห์หรือรอบสองสัปดาห์  โดยที่ให้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดเข้าร่วมขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสามารถของพวกเขา148.         แสวงหาประโยชน์จากการนำขณะทำอุมเราะฮฺ  ซึ่งจัดขึ้นในเดือนเราะมะฎอนโดยวางโปรแกรมครอบคลุมด้านการเผยแผ่  ด้านวิชาการและวิทยาการด้านต่างๆ  แก่บรรดาผู้ที่เข้าร่วมพร้อมกันนี้ส่งเสริมให้เยี่ยมเยียนเชค (ผู้ที่มีความรู้) เพื่อได้รับประโยชน์จากความรู้ของเขาหรือไม่ก็เยี่ยมนักศึกษาผู้กำลังแสวงหาวิชาความรู้149.         เตรียมตัว  ทบทวนความรู้สำหรับนำเสนอในเดือนเราะมะฎอนระหว่างละหมาดตะรอเวี๊ยะ  โดยจัดตารางติดไว้ที่ป้ายประกาศของมัสยิดอย่างชัดเจน150.         เยี่ยมเยียนคนป่วยที่โรงพยาบาล  ให้กำลังใจหรือปลอบใจพวกเขาให้มีความอดทนและมองโลกในแง่ดีโดยให้มีความหวังจากผลการตอบแทนของอัลลอฮฺพร้อมทั้งนำของขวัญไปมอบให้กับพวกเขาเพื่อเป็นสื่อในการดะวะฮฺ       วะศ็อลลัลลอฮุ  วะซัลลัม  อะลามุฮัมมัด  วะอะลาอาลิฮิ  วะศ็อฮฺบิฮิ  วะซัลลิม

المرفقات

2

150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอน
150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีถึงเราะมะฎอน