คำถาม: มีหะดีษและอัลกุรอานอายะฮฺใดที่กล่าวถึงนิกอบ(ผ้าคลุมหน้า)โดยเฉพาะบ้าง? คำตอบโดยเว็บอิสลามถามตอบ ฟัตวาหมายเลข 21536
التفاصيل
ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้า หลักฐานเกี่ยวกับการบังคับใช้ให้คลุมหน้าและมือ 1. อัลลอฮฺตรัสว่า ﴿يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُل لِّأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاء الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِن جَلَابِيبِهِنَّ ذَلِكَ أَدْنَى أَن يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ وَكَانَ اللهُ غَفُوراً رَّحِيماً﴾ (الأحزاب : 59 ) 2. อัลลอฮฺตรัสว่า 3. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า “มีผู้ขี่พาหนะผ่านมายังพวกเรา เมื่อพวกเราอยู่กับท่านร่อซูลุลลอฮฺ ในสภาพครองอิหฺรอม เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เราจะปล่อยญิลบาบจากศีรษะลงมาคลุมใบหน้า และเมื่อพวกเขาผ่านไปแล้วเราจึงเปิดเผยใบหน้าของเรา” (บันทึกโดย อบูดาวูด, 1833; อะหฺมัด, 24067; ชัยคฺ อัลอัลบานี กล่าวใน ญิลบาบ อัลมัรอะฮฺ อัลมุสลิมะฮฺ (107) ว่าเป็นสายรายงานที่หะซัน เพราะมีหลายสายรายงานสนับสนุน) 4. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ กล่าวว่า ขออัลลอฮฺทรงเมตตาสตรีชาวมุฮาญิรีน เมื่ออัลลอฮฺประทานอายะฮฺ “และให้นางปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของพวกนางลงมาจนถึงคอเสื้อคลุมของพวกนาง” [อันนูร 24:31] พวกนางฉีกผ้ากันเปื้อนของนางและใช้มันคลุมหน้าของนาง” (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 4480) 5. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ … ว่า ศ็อฟวาน อิบนุ อัลมุอัฏฏ็อล อัสสุละมี อัซซิกวานี ตามกองทัพไม่ทัน เขาจึงมายังที่ฉันหยุดอยู่และเห็นร่างที่นอนอยู่ภายใต้ผ้าสีดำ เขาจำได้ว่าเป็นฉันเพราะเคยเห็นฉันก่อนที่หิญาบจะถูกประทานลงมา ฉันตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวว่า إِنَّا لِلهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُون (แท้จริงเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแท้จริงเราต้องกลับคืนสู่พระองค์) เมื่อเขาเห็นฉัน ฉันก็คลุมหน้าด้วยญิลบาบ (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 3910; มุสลิม, 2770) 6. รายงานจากอับดุลลอฮฺ ว่า ท่านนบี กล่าวว่า «المرأة عورة فإذا خرجت استشرفها الشيطان» ความว่า “สตรีคือเอาเราะฮฺ และเมื่อนางออกไปข้างนอก ชัยฏอนก็จะติดตามนางเพื่อล่อลวง” (บันทึกโดยอัตติรมิซี, 1173; อัลอัลบานีกล่าวในเศาะฮีหฺ อัตติรมิซี (936) ว่า เป็นหะดีษเศาะฮีหฺ) ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้าالراجح في حكم تغطية الوجهเว็บอิสลาม ถามตอบแปลโดย : ทีมงานบะนาตุลฮุดาموقع الإسلام سؤال وجوابترجمة: فريق موقع بنات الهدىด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ ทรรศนะที่ถูกต้องต่อบทบัญญัติการคลุมหน้าคำถาม:มีหะดีษและอัลกุรอานอายะฮฺใดที่กล่าวถึงนิกอบ(ผ้าคลุมหน้า)โดยเฉพาะบ้าง?คำตอบ:มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺทรรศนะที่ถูกต้องคือสตรีถูกสั่งใช้ให้ปกปิดร่างกายทุกส่วนรวมทั้งใบหน้าและมือ อิมามอะหฺมัดกล่าวว่า แม้แต่เล็บของสตรีก็เป็นเอาเราะฮฺ และตรงกับทรรศนะของอิมามมาลิก เราะหิมะฮุลลอฮฺ ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า ดูเหมือนทรรศนะของอิมามอะหฺมัดคือ ทุกส่วนของสตรีเป็นเอาเราะฮฺ แม้แต่เล็บของนาง และดังกล่าวนี้เป็นทรรศนะของอิมามมาลิกเช่นกัน (มัจญมูอฺ อัลฟะตาวา, 22/110)หากพิจารณาทรรศนะตรงข้ามของผู้ที่กล่าวว่าการคลุมหน้าไม่ใช่ข้อบังคับ เราจะพบตามที่ ชัยคฺ บักรฺ อบู ซัยดฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า ทรรศนะของผู้ที่กล่าวว่าการคลุมหน้าไม่ใช่ข้อบังคับนั้นต้องอยู่ใน 3 กรณีต่อไปนี้1. สิ่งนี้มีหลักฐานที่เชื่อถือได้และชัดเจน แต่ถูกยกเลิกโดยอายะฮฺที่บังคับใช้ให้คลุมหิญาบ2. สิ่งนี้มีหลักฐานที่เชื่อถือได้แต่ไม่ชัดเจน และไม่ใช่หลักฐานที่แข็งแรงเมื่อถูกนำมาเชื่อมโยงกับหลักฐานที่สมบูรณ์จากอัลกุรอานและซุนนะฮฺว่าใบหน้าและฝ่ามือต้องถูกปกปิด3. สิ่งนี้มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่ไม่ใช่หลักฐานที่เชื่อถือได้ (หิรอซะฮฺ อัลฟะฎีละฮฺ, น.68-69) หลักฐานเกี่ยวกับการบังคับใช้ให้คลุมหน้าและมือ 1. อัลลอฮฺตรัสว่า ﴿يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ قُل لِّأَزْوَاجِكَ وَبَنَاتِكَ وَنِسَاء الْمُؤْمِنِينَ يُدْنِينَ عَلَيْهِنَّ مِن جَلَابِيبِهِنَّ ذَلِكَ أَدْنَى أَن يُعْرَفْنَ فَلَا يُؤْذَيْنَ وَكَانَ اللهُ غَفُوراً رَّحِيماً﴾ (الأحزاب : 59 )ความว่า “โอ้นบี (มุฮัมมัด) เอ๋ย จงกล่าวแก่บรรดาภรรยาของเจ้าและบุตรสาวของเจ้า และบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวกนางดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของพวกนาง (ปกปิดเรือนร่างอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นตาข้างหนึ่งหรือสองข้างเพื่อใช้มอง) นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะเป็นที่รู้จัก (ในสภาพหญิงอิสรชน) เพื่อที่พวกนางจะไม่ถูกรบกวน และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” [อัลอะหฺซาบ 33:59]อิบนุ ตัยมียะฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า อัลลอฮฺทรงใช้ให้สตรีปล่อยญิลบาบลงมาปกคลุมใบหน้า เพื่อที่ว่าพวกนางจะเป็นที่รู้จัก (ในฐานะสตรีที่มีเกียรติ) และไม่ถูกรบกวนหรือสร้างความวุ่นวาย หลักฐานนี้สนับสนุนความเห็นแรก อุบัยดะฮฺ อัซซัลมานี และคนอื่นๆ ชี้แจงว่า สตรีคลุมญิลบาบตั้งแต่ส่วนบนสุดของศีรษะลงมา โดยไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้เว้นแต่ดวงตาทำให้นางสามารถเห็นเส้นทางที่กำลังเดินทางไปได้ สิ่งที่พิสูจน์ได้ในหลักฐานเศาะฮีหฺคือ สตรีที่อยู่ในสภาพครองอิหฺรอมถูกห้ามไม่ให้สวมนิกอบและถุงมือ นี่เป็นการบอกว่านิกอบและถุงมือเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สตรีที่ไม่ได้ครองอิหฺรอม ซึ่งพวกนางปิดใบหน้าและมือของพวกนาง” (มัจญ์มูอฺ อัลฟะตาวา, 15/371-372) 2. อัลลอฮฺตรัสว่า﴿وَقُل لِّلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ وَيَحْفَظْنَ فُرُوجَهُنَّ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَى جُيُوبِهِنَّ﴾ (النور : 31)ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แก่บรรดามุอ์มินะฮฺ (ผู้ศรัทธาหญิง) ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ (จากการมองสิ่งต้องห้าม) และให้พวกนางรักษาทวาร (อวัยวะเพศ) ของพวกนาง (จากการประพฤติผิดทางเพศ) และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้ (เช่น ตาข้างหนึ่งหรือสองข้างเพื่อใช้มอง เสื้อคลุมข้างนอก ถุงมือ) และให้นางปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของพวกนางลงมาจนถึงญุยูบิฮินนะ (ร่างกาย ใบหน้า คอ และหน้าอกของพวกนาง)” [อันนูร 24:31]ชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮฺ กล่าวว่า จากประโยค “และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้” อับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอูด กล่าวว่า เครื่องประดับที่เปิดเผยได้คือเสื้อผ้า เพราะคำว่า زينةโดยปกติแล้วเป็นชื่อเรียกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ซึ่งเราจะเห็นได้จากอายะฮฺที่อัลลอฮฺตรัสว่า﴿خُذُواْ زِينَتَكُمْ﴾ (الأعراف : 31 )ความว่า “จงเอาเครื่องประดับกายของพวกเจ้า (หมายถึงสวมเครื่องนุ่งห่มที่สะอาด)” [อัลอะอฺรอฟ 7:31]﴿قُلْ مَنْ حَرَّمَ زِينَةَ اللهِ الَّتِيَ أَخْرَجَ لِعِبَادِهِ﴾ (الأعراف : 32 )ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ผู้ใดเล่าที่ให้เป็นที่ต้องห้าม ซึ่งการประดับร่างกายจากอัลลอฮฺที่พระองค์ได้ทรงให้มาสำหรับปวงบ่าวของพระองค์” [อัลอะอฺรอฟ 7:32]﴿وَلَا يَضْرِبْنَ بِأَرْجُلِهِنَّ لِيُعْلَمَ مَا يُخْفِينَ مِن زِينَتِهِنَّ﴾ (النور : 31 )ความว่า “และอย่าให้นางกระทืบเท้าของพวกนาง เพื่อให้ผู้อื่นรู้สิ่งที่พวกนางควรปกปิดในเครื่องประดับของพวกนาง” [อันนูร 24:31]การกระทืบเท้าทำให้ทราบว่านางสวมกำไลข้อเท้าและเครื่องประดับอื่นๆ อัลลอฮฺทรงห้ามสตรีเปิดเผยเครื่องประดับทุกชนิดยกเว้นสิ่งที่เปิดเผยได้ แต่ทรงอนุญาตให้เปิดเผยเครื่องประดับที่ปกปิดอยู่แก่มะหฺร็อม ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าเครื่องประดับที่เปิดเผยโดยทั่วไปสำหรับสตรีคือเสื้อผ้า เพราะสำหรับร่างกายนั้นเลือกได้ว่าจะเปิดเผยหรือปกปิด ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าเครื่องประดับที่เปิดเผยคือเสื้อผ้าอิมามอะหมัด กล่าวว่า เครื่องประดับที่เปิดเผยคือเสื้อผ้า และทุกๆ ส่วนของสตรีเป็นเอาเราะฮฺ แม้แต่เล็บของนาง ซึ่งมีรายงานอยู่ในหะดีษ “สตรีคือเอาเราะฮฺ” หมายรวมทุกส่วนของสตรี เพราะการปกปิดมือขณะละหมาดไม่เป็นที่น่าตำหนิ (มักรูฮฺ) ดังนั้นมือจึงเป็นส่วนหนึ่งของเอาเราะฮฺเช่นเดียวกับเท้า การเปรียบเทียบดังกล่าวบ่งชี้ว่าใบหน้าเป็นก็เอาเราะฮฺ หากแต่ว่านางมีความจำเป็นต้องเปิดหน้าขณะละหมาด(เพื่อการสุญูด)ไม่เหมือนกับมือ (ชัรหฺ อัลอุมดะฮฺ, 4/267-268) 3. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ว่า “มีผู้ขี่พาหนะผ่านมายังพวกเรา เมื่อพวกเราอยู่กับท่านร่อซูลุลลอฮฺ ในสภาพครองอิหฺรอม เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เราจะปล่อยญิลบาบจากศีรษะลงมาคลุมใบหน้า และเมื่อพวกเขาผ่านไปแล้วเราจึงเปิดเผยใบหน้าของเรา” (บันทึกโดย อบูดาวูด, 1833; อะหฺมัด, 24067; ชัยคฺ อัลอัลบานี กล่าวใน ญิลบาบ อัลมัรอะฮฺ อัลมุสลิมะฮฺ (107) ว่าเป็นสายรายงานที่หะซัน เพราะมีหลายสายรายงานสนับสนุน)เป็นที่ทราบกันว่า สตรีจะไม่นำสิ่งใดมาปกปิดใบหน้าเมื่อครองอิหฺรอม แต่ท่านหญิงอาอิชะฮฺ และบรรดาเศาะหาบียะฮฺที่อยู่กับนาง ได้ปล่อยผ้าลงมาคลุมหน้า เพราะคำสั่งบังคับใช้ให้ปกปิดใบหน้าต่อหน้าชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อมนั้น มีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งห้ามปกปิดใบหน้าเมื่อครองอิหฺรอม 4. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ กล่าวว่า ขออัลลอฮฺทรงเมตตาสตรีชาวมุฮาญิรีน เมื่ออัลลอฮฺประทานอายะฮฺ “และให้นางปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของพวกนางลงมาจนถึงคอเสื้อคลุมของพวกนาง” [อันนูร 24:31] พวกนางฉีกผ้ากันเปื้อนของนางและใช้มันคลุมหน้าของนาง” (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 4480) 5. รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ … ว่า ศ็อฟวาน อิบนุ อัลมุอัฏฏ็อล อัสสุละมี อัซซิกวานี ตามกองทัพไม่ทัน เขาจึงมายังที่ฉันหยุดอยู่และเห็นร่างที่นอนอยู่ภายใต้ผ้าสีดำ เขาจำได้ว่าเป็นฉันเพราะเคยเห็นฉันก่อนที่หิญาบจะถูกประทานลงมา ฉันตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวว่า إِنَّا لِلهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُون (แท้จริงเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแท้จริงเราต้องกลับคืนสู่พระองค์) เมื่อเขาเห็นฉัน ฉันก็คลุมหน้าด้วยญิลบาบ (บันทึกโดย อัลบุคอรี, 3910; มุสลิม, 2770) 6. รายงานจากอับดุลลอฮฺ ว่า ท่านนบี กล่าวว่า «المرأة عورة فإذا خرجت استشرفها الشيطان» ความว่า “สตรีคือเอาเราะฮฺ และเมื่อนางออกไปข้างนอก ชัยฏอนก็จะติดตามนางเพื่อล่อลวง” (บันทึกโดยอัตติรมิซี, 1173; อัลอัลบานีกล่าวในเศาะฮีหฺ อัตติรมิซี (936) ว่า เป็นหะดีษเศาะฮีหฺ)กรุณาอ่านคำถามหมายเลข 21134 มีข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับหิญาบและอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ที่สุด