البحث

عبارات مقترحة:

الحفي

كلمةُ (الحَفِيِّ) في اللغة هي صفةٌ من الحفاوة، وهي الاهتمامُ...

الحافظ

الحفظُ في اللغة هو مراعاةُ الشيء، والاعتناءُ به، و(الحافظ) اسمٌ...

المهيمن

كلمة (المهيمن) في اللغة اسم فاعل، واختلف في الفعل الذي اشتقَّ...

มัซฮับต่างๆ ทางฟิกฮฺในอิสลามเกิดขึ้นได้อย่างไร?

التايلاندية - ไทย / Phasa Thai

المؤلف ซุฟอัม อุษมาน ، สำนักงานเผยแพร่และสอนอิสลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรุงริยาด
القسم مقالات
النوع نصي
اللغة التايلاندية - ไทย / Phasa Thai
المفردات الفقه الإسلامي - المذاهب السنية الأخرى
อธิบายสาเหตุคร่าวๆ ของจุดเริ่มต้นการเกิดแนวคิดทางนิติศาสตร์ (ฟิกฮฺ) ของกลุ่มและมัซฮับต่างๆ ในอิสลาม รวมทั้งอธิบายมารยาทที่ควรคำนึงในเรื่องการขัดแย้งทางด้านความเห็น

التفاصيل

> > > > ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ   มัซฮับต่างๆ ทางฟิกฮฺในอิสลามเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมต้องมีความขัดแย้งกันระหว่างอุละมาอ์ จนเกิดเป็นมัซฮับต่างๆ เช่นมัซฮับทั้งสี่? การขัดแย้งกันในความนึกคิดและความเห็น รวมทั้งความแตกต่างในทัศนะ เป็นสัจธรรมดั้งเดิมที่อัลลอฮฺทรงกำหนดมาพร้อมกับความเป็นมนุษย์ (ดู สูเราะฮฺ ฮูด 118)    การเกิดมัซฮับต่างๆ เป็นผลพวงของความเห็นที่แตกต่างในการอิจติฮาด/การวินิจฉัย เท่านั้น เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการมีชีวิตชีวาของฟิกฮฺและการไม่หยุดนิ่งของบรรดาอุละมาอ์ในการค้นหาความรู้และข้อเท็จจริงในศาสนา ด้วยการใช้สติปัญญาและความรู้ของพวกเขา เพื่อให้สามารถเผยแพร่แก่ผู้คนทั่วไป และเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้(อับดุลกะรีม ซัยดาน. 1996 : 107)  ส่วนการแพร่หลายมัซฮับต่างๆ โดยเฉพาะมัซฮับทั้งสี่นั้นเป็นเพราะการที่อิมามทั้งสี่มีสานุศิษย์ที่ช่วยเผยแพร่จนขยายกว้างและมีชื่อเสียง รวมทั้งมีการบันทึกกฏเกณฑ์และบทวินิจฉัยต่างๆ จนเป็นตำราขึ้นมา(อับดุลกะรีม ซัยดาน. 1996 : 121, อัล-อุลวานีย์, เฏาะฮา ญาบิรฺ. 1995 : 87) อันที่จริงความเห็นต่างๆ ในทางฟิกฮฺมิได้มีเพียงแค่สี่มัซฮับเท่านั้น แต่ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นทำให้ชื่อเสียงของแนวความคิดของมัซฮับทั้งสี่เป็นที่รู้จักกันและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด แนวคิดของอุละมาอ์ท่านอื่นๆ ที่เคยมีในอดีตมีมากกว่าสี่มัซฮับของอิมามทั้งสี่อีก เช่น หะสัน อัล-บัศรีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 110) อัล-เอาซาอีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 157) ซุฟยาน อัษ-เษารีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 160) อัล-ลัยษฺ อิบนฺ สะอัด (เสียชีวิต ฮ.ศ. 157) ซุฟยาน อิบนฺ อุยัยนะฮฺ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 198) อิบนุ หัซมฺ อัซฺ-ษอฮิรีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 270) อิสหาก อิบนฺ รอฮูยะฮฺ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 238) อบู เษารฺ (เสียชีวิต ฮ.ศ. 240) เป็นต้น (อัล-อุลวานีย์, เฏาะฮา ญาบิรฺ. 1995 : 88)  ดั้งเดิมในทางฟิกฮฺนั้น ผู้ศึกษาฟิกฮฺต้องอิจติฮาดด้วยตัวเองก่อน ด้วยการถือหลักฐานจาก อัล-กุรฺอาน อัล-หะดีษฺ และกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่จะทำให้การอิจติฮาดของเขานั้นใช้ได้ ซึ่งอาจจะพ้องกับความเห็นของคนรุ่นก่อนหน้า หรืออาจจะขัดแย้งกันก็ได้ ในทั้งสองกรณีเขาจะได้รับผลบุญ ถ้าการอิจติฮาดของเขาถูกต้องเขาจะได้รับสอบผลบุญ และถ้าผิดเขาจะได้รับหนึ่งผลบุญ อย่างไรก็ตามในสมัยหลังนี้ ความอุตสาหะในการหาความรู้ของคนส่วนมากนั้นดูลดลง อีกทั้งยังมีตำราต่างๆ ที่เป็นแหล่งอ้างอิงมากมาย และการไม่มีความพร้อมในการอิจติฮาดจึงทำให้มีการตักลีด/การตามผู้อื่น มากกว่าการอิจติฮาดเอง ทั้งๆ ที่ความพยายามในการศึกษาหลักฐาน และความอุตสาหะเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงด้วยตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่คนรุ่นสะลัฟฺเองให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ กระนั้นอุละมาอ์บางท่านก็มีความเห็นว่า ควรต้องปิดโอกาสการอิจติฮาด เพื่อป้องกันการอ้างอิจติฮาดของคนที่ไม่มีความพร้อมในเรื่องนี้ (อับดุลกะรีม ซัยดาน. 1996 : 122-124)  สาเหตุของการขัดแย้งในความเห็น  มีหลายสาเหตุที่เป็นต้นตอของความขัดแย้งทางความเห็นของอุละมาอ์ โดยหลักๆ แล้ว มีดังนี้ (อัล-อุลวานีย์, เฏาะฮา ญาบิรฺ. 1995 : 105-114)  1. การตีความทางด้านภาษา ซึ่งเป็นที่รู้กันอย่างชัดเจนว่า ภาษาอาหรับมีรากฐานทางภาษาที่สามารถตีความได้กว้างขวาง 2. การตีความเกี่ยวกับรายงานของหลักฐาน อุละมาอ์บางท่านอาจจะรู้หลักฐานหนึ่งในขณะที่คนอื่นไม่รู้ หรือบางท่านอาจจะเห็นว่ารายงานนี้รับได้ ในขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่ารับไม่ได้ เป็นต้น  3. การใช้กฏเกณฑ์ทางด้านฟิกฮฺที่แตกต่างกัน อุละมาอ์บางท่านอาจจะมองว่าสามารถใช้หลัก อัลมะศอลิหุล มุรสะละฮฺ (ผลประโยชน์พึงกระทำ) ในขณะที่ท่านอื่นๆ มองว่าใช้หลักนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับหลักอื่นๆ เช่น อิสติหฺสาน (การเห็นดีเห็นชอบ) การใช้ความเห็นเศาะหาบะฮฺ การถือประเพณี เป็นต้น    ข้อสังเกตและข้อควรจำ  1. ความขัดแย้งในทางฟิกฮฺไม่ใช่เหตุที่ต้องทำให้มีการทะเลาะและสร้างศัตรูระหว่างมุสลิมด้วยกัน ความเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เป็นการเปิดกว้างทางด้านวิชาการ และการค้นหาข้อเท็จจริง ดังนั้นแต่ละฝ่ายจึงควรมีมารยาท และให้ความเคารพความเห็นของอีกฝ่าย โดยไม่ถือว่าสิ่งที่ตนเห็นนั้นเป็นบัญญัติของอัลลอฮฺที่ถูกต้องและไม่ผิดอีกแล้ว ตัวอย่างของการให้เกียรติระหว่างสองฝ่ายที่ขัดแย้งกันนั้นมีให้เห็นอย่างชัดเจนในสมัยเศาะหาบะฮฺและอุละมาอ์รุ่นก่อน(ดู เพิ่มเติม อับดุลกะรีม ซัยดาน. 1996 : 106, อัล-อุลวานีย์, เฏาะฮา ญาบิรฺ. 1995 : 115-134, อะฏิยะฮฺ มุหัมหมัด สาลิม. 1991 : 85-92)  2. การกลับไปหาหลักฐานจากอัล-กุรฺอานและอัล-หะดีษฺคือทางออกที่อัล-กุรฺอานระบุไว้ (ดู สูเราะฮฺ อัน-นิสาอฺ 59) เหล่าอิมามทั้งสี่และอิมามคนอื่นๆ ต่างกล่าวกันในทำนองเดียวกันว่าความเห็นของท่านแต่ละคนนั้นเป็นเพียงแค่ความเห็นของปุถุชนผู้หนึ่ง ถ้าหากมีความเห็นอื่นที่เพียบพร้อมด้วยหลักฐานที่ถูกต้องกว่าก็ให้กลับไปหาหลักฐานนั้น คำพูดของท่านอิมามมาลิก ที่ได้กล่าวว่า “คำพูดของคนทุกคนนั้นทั้งรับได้และทิ้งได้ ยกเว้นคำพูดของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เท่านั้น” (อับดุลกะรีม ซัยดาน. 1996 : 123) คำกล่าวนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับสิ่งที่เราได้กล่าวถึงข้างต้น  3. ควรจะต้องศึกษามารยาทต่างๆ ในการเผชิญกับความขัดแย้งทางความเห็น ดังที่อุละมาอ์รุ่นก่อนๆ ได้พูดไว้ เช่น การให้เกียรติความเห็นผู้อื่น การไม่รีบที่จะค้านความเห็นผู้อื่น การใช้วิธีอธิบายที่สันติ การศึกษากรณีตัวอย่างการทำความเข้าใจและให้เกียรติความเห็นผู้อื่นจากอุละมาอ์รุ่นก่อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง    ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก -  رفع الملام عن الأئمة الأعلام، لأحمد بن عبدالحليم ابن تيمية، المكتب الإسلامي- بيروت، 1412هـ 1993م   - موقف الأمة من اختلاف الأئمة، عطية محمد سالم، مكتبة دار التراث ـ المدينة المنورة، 1411هـ 1991م   - المدخل لدراسة الشريعة الإسلامية، عبدالكريم زيدان، مؤسسة الرسالة ـ بيروت، 1417هـ 1996م   - أدب الاختلاف في الإسلام، طه جابر العلواني، الدار العالمية للكتاب الإسلامي- الرياض، 1416هـ 1995م

المرفقات

2

มัซฮับต่างๆ ทางฟิกฮฺในอิสลามเกิดขึ้นได้อย่างไร?
มัซฮับต่างๆ ทางฟิกฮฺในอิสลามเกิดขึ้นได้อย่างไร?