บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินคำว่า “ตักวา” ได้ยินบ่อยจนชาชินโดยไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อคำๆนี้อีก ความคุ้นชินทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย ทั้งๆ ที่ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะความหมายที่แท้จริงของคำว่า“ตักวา” มีนัยยะอันทรงพลังยิ่งใหญ่มากในชีวิตของมนุษย์ผู้หนึ่งที่ศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า และประชาชาติมุสลิมทั้งหมดที่น้อมรับการศรัทธาต่อพระองค์
التفاصيل
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินคำว่า “ตักวา” ได้ยินบ่อยจนชาชินโดยไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อคำๆนี้อีก ความคุ้นชินทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย ทั้งๆ ที่ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ตักวา” มีนัยยะอันทรงพลังยิ่งใหญ่มากในชีวิตของมนุษย์ผู้หนึ่งที่ศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า และประชาชาติมุสลิมทั้งหมดที่น้อมรับการศรัทธาต่อพระองค์ ตักวา ในเชิงนิรุกติศาสตร์มีความหมายว่า การป้องกัน การหลีกเลี่ยง การระมัดระวัง (ดู ลิสานุล อะหรับ) อุละมาอ์ทางภาษาอาหรับบางท่านเช่น อิบนุ ฟาริส บอกว่า “ตักวา” ในความหมายทางภาษามาจาก “การพูดน้อย” !! ในตัฟสีรของอิมาม อัล-กุรฏุบีย์ มีการอธิบายตักวาที่น่าสนใจว่า “ระดับของผู้ตักวานั้นสูงกว่าผู้ศรัทธาและผู้เชื่อฟัง(ฏออัต) ผู้ตักวาหมายถึงผู้ที่ปกป้องตนเองจากการลงโทษของอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติความดีและด้วยการขอดุอาอ์ที่บริสุทธิ์ใจ คำนี้นำมาจากความหมายของการป้องกันสิ่งมิชอบด้วยการนำเครื่องกีดขวางมากั้นระหว่างท่านกับสิ่งนั้น” (เล่ม 1 หน้า 161) อบู ยะซีด อัล-บุสฏอมีย์ กล่าวว่า “ผู้ตักวา หมายถึง ผู้ที่เมื่อเขาพูด เขาพูดเพื่ออัลลอฮฺ และเมื่อเขาทำ เขาทำเพื่ออัลลอฮฺ” (เล่มเดิม) อบู สุลัยมาน อัด-ดารอนีย์ กล่าวว่า “บรรดาผู้ตักวานั้นคือผู้ที่อัลลอฮฺดึงเอาความหลงใหลในตัณหาออกจากหัวใจของพวกเขา” (เล่มเดิม) อุมัร บิน อัล-ค็อฏฏ็อบ ได้ถามอุบัยย์ ถึงความหมายของตักวา อุบัยย์ ถามอุมัรกลับไปว่า “ท่านเคยเดินผ่านทางที่เต็มไปด้วยหนามบ้างไหม?”“ใช่ เคย” อุบัยย์ถามอีกว่า “แล้วท่านทำเช่นไร?” อุมัรกล่าวว่า “ฉันก็ตื่นตัวและระแวดระวัง” ผู้ถูกถามครั้งแรกจึงตอบว่า “เช่นนั่นแหล่ะคือตักวา”(เล่มเดิม หน้า161-162) อุมัรตอบไปว่า มีการอธิบายและให้ความหมายคำว่าตักวาอีกมากมายในตำราของอุละมาอ์ แต่ข้อสรุปที่น่าจะทำความเข้าใจได้ง่ายและกระชับที่สุดก็คือ การประพฤติตนโดยใช้เกณฑ์ของอาคิเราะฮฺ เพราะอาคิเราะฮฺคือเกณฑ์ที่บริสุทธิ์ต่อเอกองค์อัลลอฮฺเพียงผู้เดียว นี่หมายความว่า ทุกสิ่งที่เราปฏิบัติและทุกความเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันจะต้องมีการผูกไว้กับการตอบแทนของอัลลอฮฺ ณ ชีวิตหลังความตาย มิใช่สักทำไปแต่เพื่อความสำราญในโลกนี้โดยไม่ได้คำนึงถึงดินแดนอันนิรันดรในโลกหน้า ดินแดนที่หากเป็นการผลตอบแทนที่ดีก็จะได้มีความสุขยั่งยืนไม่สูญสลาย แต่หากเป็นการทรมานก็จะทุกข์สาหัสไม่มีวันรอดพ้นเว้นแต่ผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์เท่านั้น คำอธิบายนี้ยืนยันได้ด้วยโองการอัลกุรอานที่ระบุอย่างชัดเจนให้เรา “ตักวา” ต่อวันอาคิเราะฮฺ ในขณะที่บางอายะฮฺระบุให้ “ตักวา” หรือป้องกันตนจากไฟนรกซึ่งอยู่ในบริบทของวันอาคิเราะฮฺเช่นกัน ดังสองอายะฮฺต่อไปนี้ «وَاتَّقُوا يَوْمًا تُرْجَعُونَ فِيهِ إِلَى اللَّهِ ثُمَّ تُوَفَّى كُلُّ نَفْسٍ مَا كَسَبَتْ وَهُمْ لا يُظْلَمُونَ» ความว่า “พวกเจ้าจงตักวาต่อวันที่พวกเจ้าจะถูกนำกลับสู่อัลลอฮฺ แล้วทุกชีวิตก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างสมบูรณ์ต่อสิ่งที่เขาได้กระทำไว้ และพวกเขาจะไม่มีการถูกอธรรมแต่อย่างใดไม่” (อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 281) «وَاتَّقُوا النَّارَ الَّتِي أُعِدَّتْ لِلْكَافِرِينَ» ความว่า “และจงตักวาต่อไฟนรกที่ซึ่งถูกเตรียมไว้แก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา” (อาล อิมรอน : 131) ผู้ตักวาจึงหมายถึงผู้ที่มองการณ์ไกลทะลุถึงวันหน้า ความสำเร็จที่พวกเขาหมายปองมีจุดหมายเป็นสวรรค์อันไม่มีวันสลาย และเป็นความสำเร็จที่ทำให้พวกเขารอดพ้นจากความล้มเหลวและการขาดทุนด้วยการต้องรับโทษในไฟนรกอันร้อนระอุ อย่างทุรนทุราย การมองเช่นนี้มิได้หมายถึงว่าต้องละเลยดุนยา ทว่าแผนการเพื่อความสำเร็จระยะยาวในอาคิเราะฮฺยังมักจะสร้างผลพลอยได้เป็นความสำเร็จบนโลกนี้ด้วย เพราะผู้ที่ปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวังต่อแผนการในระยะยาว ย่อมต้องละเอียดอ่อนต่องานในระยะสั้นด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น ตักวาจึงเป็นกุญแจหลักของผู้หวังความสำเร็จ และเป็นคำสั่งที่อัลลอฮฺสั่งใช้บ่าวของพระองค์อย่างชัดเจนว่า «وَاتَّقُوا اللَّهَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ» ความว่า “จงตักวาต่ออัลลอฮฺเถิด เผื่อว่าสูเจ้าจะประสบความสำเร็จ” (อัล-บะเกาะเราะฮฺ : 189, อาล อิมรอน : 130, 200) นี่คือคำสั่งในภาพรวม ถ้าลงลึกในรายละเอียดปลีกย่อย เราจะพบว่าอัลกุรอานสั่งและชี้แนะให้เราใช้ตักวาในการประพฤติปฏิบัติและกิจกรรมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ตั้งแต่เรื่องส่วนตัว ครอบครัว สังคม การเมือง และเรื่องในระดับสากล ดังจะเห็นได้จากดัชนีพฤติกรรมและคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการตักวาโดยคร่าวๆ ต่อไปนี้ - ด้านความเชื่อ การศรัทธา อะกีดะฮฺ จิตวิญญาณ การยึดมั่นในคำสอนของอัลลอฮฺ 3:102, การเลือกเส้นทางที่เที่ยงตรง 6:153, การหักล้างข้อสงสัยในคัมภีร์ 2:24, วันกิยามะฮฺ 2:48, 123, การเอาชนะกับไสยศาสตร์ 2:103, คำสั่งต่อชาวคัมภีร์ 2:41, การศรัทธาต่ออัลกุรอาน 6:155, เหตุแห่งปัจจัยยังชีพ 7:96, ความปลอดภัยจากชัยฏอน 7:210, การซื่อสัตย์ต่ออิสลาม 30:31, คำสั่งแก่ท่านรอซูล 23:1, การศรัทธาต่อรอซูล 57:28, บรรยายลักษณะของนรก 39:16, บรรยายลักษณะของสวรรค์ 39:20, 73, การไม่ล้ำหน้าอัลลอฮฺและรอซูล 49:1, การตามท่านรอซูล 59:7, การเข้าใจชีวิตบนโลกดุนยา 47:36, การเชิญชวนของบรรดานบี 26:108, 110, 126, 131, 132, 144, 150, 163, 179, 184, การเชิญชวนของนบีนูหฺ 23:23, 71:3, การเชิญชวนของนบีฮูด 7:65, การเชิญชวนของนบีอิบรอฮีม 29:16, การเชิญชวนของนบีมูซา 7:128, การเชิญชวนของนบีอิลยาส 37:124, การเชิญชวนของนบีอีซา 3:50, 43:63 - ด้านการปฏิบัติ ข้อบัญญัติ มารยาท ความรู้ 2:282, การละหมาด 20:132, การถือศีลอด 2:183, การให้เกียรตินครมักกะฮฺ 5:2, หัจญ์ 2:196, 197, 203, การล่าสัตว์ของผู้ทำหัจญ์ 5:96, การเชือดสัตว์พลี 22:37, ความยุติธรรมและการเป็นพยาน 5:8,108, การสั่งเสียก่อนตาย 2:180, การสั่งเสียแก่ภรรยาที่ถูกหย่า 2:241, การใช้จ่าย 64:16, ดอกเบี้ย 2:278, 3:130, การจ่ายหนี้สิน 2:281, 282, อาหารการกิน 5:4, 88, 93, ของดีกับของไม่ดี 5:100, การปกปิดร่างกายด้วยเสื้อผ้า 7:26, การเข้าบ้าน 2:189, คำสั่งแก่ภรรยาท่านรอซูลและมารยาทการพูดของผู้หญิง 23:32, การปกปิดเอารัตของผู้หญิง 23:55, การพูดสิ่งที่ดี 23:70, มารยาทของมุอ์มิน การกล่าวหา การไม่ไว้วางใจ การนินทา 49:12, การกระซิบกระซาบ 58:9, การนอบน้อมและไม่หยิ่งยโส 28:83, - ด้านครอบครัว สังคม การเมือง การปกครอง สงคราม การร่วมกับภรรยา 2:223, การหย่าร้าง 2:231, 65:1, การไกล่เกลี่ยระหว่างสามีภรรยา 4:128, ค่าดูแลบุตร 2:233, ครอบครัว เครือญาติ 4:1, การมีภรรยาหลายคน 4:129, 131, การระวังฟิตนะฮฺของภรรยาและบุตร 64:16, การเป็นพี่น้องของมุอ์มิน 49:10, การรับผิดชอบร่วมกันต่อสังคม 8:25, พวกรักร่วมเพศ 11:78, 15:69, การลงโทษฆาตกร 2:179, อาชญากรรม 2:194, 206, การสงคราม 3:123, การให้เกียรติเดือนต้องห้าม 9:36, การผูกสัมพันธ์กับผู้ปฏิเสธ 5:57, การแบ่งทรัพย์สงคราม 8:1, การใช้ทรัพย์สินที่ยึดจากสงคราม 8:69, การทำสัญญากับคู่สงคราม 9:4, 7, การอดทนต่ออุปสรรคในการทำงานเพื่ออิสลาม 16:127-128, การอดทนต่อการปะทะต่อสู้ทางความคิดและจิตวิทยา 3:120, 125, 184, การปะทะเผชิญหน้ากับความเท็จและบททดสอบ 3:172, 198, 200, การเป็นประชาชาติเดียวกัน 23:52 ดัชนี้ข้างบนนั้นชี้ให้เห็นว่า ถ้าคุณต้องการให้ชีวิตส่วนตัวประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านจิตวิญญาณและร่างกาย คุณต้องอาศัยตักวาเป็นตัวนำ ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในเรื่องครอบครัว การดูแลภรรยาและลูกๆ คุณต้องมีตักวาอยู่ในใจ ถ้าคุณต้องการความสูงส่ง เป็นที่เชิดชูและมีเกียรติต่อหน้าประชาชาติอื่นๆ คุณไม่อาจมองข้ามตักวาไปได้ ... ฯลฯ ปัญหาทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องพลานามัย สุขภาพจิต ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ พฤติกรรมทางเพศ อาชญากรรม ฯลฯ สามารถใช้ตักวาเพื่อแก้ไขได้ !!! ช่างน่าทึ่ง ที่มีคำสั่งเกี่ยวกับตักวาครอบคลุมทุกอิริยาบทของวิถีชีวิตมากมายเช่นนี้ กระนั้น เราทั้งหลายก็มิพักจะเข้าใจและนำคำสั่งเหล่านี้มาใช้จริงๆ น้อยคนนักที่มุ่งมั่นเรียนรู้และปฏิบัติตามคำสอนของอัลลอฮฺและรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ในการใช้คำสั่งตักวาอย่างจริงจัง ระยะห่างระหว่างประชาชาติมุสลิมกับชัยชนะและความสำเร็จจึงยังไกลโขอยู่อย่างน่าสงสารและน่าสมเพชตัวเอง เรามีกุญแจแห่งชัยชนะและการรอดพ้นอยู่ในมือ แต่มองไม่เห็นคุณค่า จึงทิ้งขว้างไม่ใยดีมัน ทุกวันนี้จึงต้องกล้ำกลืนกับการถูกย่ำยีเหยียดหยาม และมีชีวิตอยู่ในจมปลักแห่งความแหลกเหลวอย่างสุดแสนขมขื่น มันคงจะเป็นเช่นนี้อีกนานตราบกระทั่งเราทั้งหมดสำนึกและปรับปรุงตัวเองอีกครั้ง เพราะจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นหากไม่ใช่เราเองที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลง «إِنَّ اللَّهَ لا يُغَيِّرُ مَا بِقَوْمٍ حَتَّى يُغَيِّرُوا مَا بِأَنْفُسِهِمْ» ความว่า “แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงหมู่ชนใด กระทั่งพวกเขาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ในตัวพวกเขา” (อัร-เราะอฺด์ : 11) คำสั่งให้ตักวาคงเป็นเพียงคำสั่งเดียวที่อาจจะเป็นกุญแจมหัศจรรย์ เพื่อจะใช้ไขทางออกให้แก่ประชาชาติอิสลามที่ประสบกับความเพลี่ยงพล้ำและความเป็นจริงอันน่ารันทดในปัจจุบัน แน่นอนที่สุด ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องศึกษา “ตักวา” อย่างจริงจัง ตีความหมายของมันให้ชัดเจน อธิบายให้แจ่มแจ้งในทุกเรื่อง ตักเตือนซึ่งกันให้ทุกคนรับรู้ และปฏิบัติใช้มันอย่างแข็งขันให้มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด สมกับที่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม สั่งเสียกับเราว่า “ท่านจงตักวาต่ออัลลอฮฺ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม” (อัต-ติรมิซีย์ : 1987) อย่างน้อยที่สุด “ตักวา” ควรต้องเป็นจุดเริ่มต้นที่มุสลิมจะใช้วางแผนเป็นจุดสตาร์ทเพื่อการดั้นด้นสู่หลักชัยที่ยังอยู่อีกไกลข้างหน้า มันควรต้องถูกปลูกฝังในทุกอณูความรู้สึกนึกคิดและการปฏิบัติของพวกเรา รวมทั้งต้องถ่ายทอดให้อนุชนทุกรุ่นเปี่ยมด้วยพลังนี้ ถ้าหากเราหวังที่จะเห็นความสำเร็จและชัยชนะอีกครั้ง.