จากหนังสือมุคตะศ็อร อัล-ฟิกฮฺ อัล-อิสลามีย์ ความหมายของอัช-ชะฟาอะฮฺ ประเภทของอัช-ชะฟาอะฮฺ เงื่อนไขของการชะฟาอะฮฺ การวิงวอนขอให้ได้รับอัชชะฟาอะฮฺจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
التفاصيل
อัช-ชะฟาอะฮฺ (ความช่วยเหลือในวันกิยามะฮฺ)الشفاعةมุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ อัต-ตุวัยญิรีย์محمد بن إبراهيم بن عبدالله التويجريจากหนังสือ: มุคตะศ็อร อัล-ฟิกฮฺ อัล-อิสลามีย์المصدر: كتاب مختصر الفقه الإسلاميอัชชะฟาอะฮฺอัชชะฟาอะฮฺ คือ การขอความช่วยเหลือให้กับคนอื่นประเภทของ อัชชะฟาอะฮฺในวันกียามะฮฺ อัชชะฟาอะฮฺจะแบ่งเป็น 2 ประเภท1. อัชชะฟาอะฮฺ ที่มีเฉพาะสำหรับท่านนบีมุหัมหมัด ซึ่งแบ่งออกได้หลายชนิด1.1 อัชชะฟาอะฮฺที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ อัชชะฟาอะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ให้กับมวลมนุษย์ที่ยืนรอการพิพากษาระหว่างพวกเขา ณ ทุ่งมัหชัร (สนามแห่งการชุมนุม) อัลลอฮฺ จึงพิพากษาระหว่างพวกเขา ซึ่งนบีในวันนั้นจะอยู่ในฐานะที่ถูกยกย่อง1.2 อัชชะฟาอะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ให้กับบางคนในหมู่ประชาชาติของท่าน เพื่อให้เข้าสวรรค์โดยไม่ต้องถูกสอบสวน พวกเขามีจำนวนทั้งหมด 70,000 คน ดังที่ อัลลอฮฺได้ตรัส (ในหะดีษอัลกุดสีย์) ว่า “เจ้าจงนำเอาส่วนหนึ่งจากประชาชาติของเจ้า เข้าสวรรค์ทางประตูขวา โดยไม่ต้องถูกสอบสวนใดๆ”1.3 อัชชะฟาอะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ให้กับผู้ที่มีความดีและความชั่วเท่ากัน ดังนั้น ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็จะชะฟาอะฮฺจนคนเหล่านี้ได้เข้าสวนสวรรค์1.4 อัชชะฟาอะฮฺ ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพื่อขอเพิ่มระดับชั้นให้กับชาวสวรรค์ และได้รับระดับชั้นที่เหนือกว่าผลตอบแทนของการงานที่เขาได้กระทำมา1.5 อัชชะฟาอะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ให้กับ อบูฏอลิบ ลุงของของท่าน เพื่อให้ได้รับการบรรเทาโทษในนรก1.6 อัชชะฟาอะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ให้กับผู้ศรัทธาทุกคนได้เข้าสวนสวรรค์2. อัชชะฟาอะฮฺทั่วไป สำหรับนบีมุหัมหมัด นบีท่านอื่นๆ มวลมลาอิกะฮฺ และบรรดาผู้ศรัทธาคือ การชะฟาอะฮฺให้กับผู้ที่ถูกตัดสินว่าตกนรก หรือผู้ที่ตกอยู่ในนรกแล้ว ให้พ้นออกมา1.ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า «لِكُلِّ نَبِيٍّ دَعْوَةٌ مُسْتَجَابَةٌ ، فَتَعَجَّلَ كُلُّ نَبِيٍّ دَعْوَتَهُ ، وَإِنِّي اخْتَبَأْتُ دَعْوَتِي شَفَاعَةً لِأُمَّتِي يَوْمَ الْقِيَامَةِ ، فَهِيَ نَائِلَةٌ إِنْ شَاءَ اللَّهُ مَنْ مَاتَ مِنْ أُمَّتِي لَا يُشْرِكُ بِاللهِ شَيْئًا»ความว่า “ทุกๆนบีมีการวอนขอที่ได้รับการตอบสนอง ดังนั้นบรรดานบีจะใช้การวอนขอดังกล่าวเป็นประโยชน์บนโลกนี้ แต่ฉันซุกซ่อนการวอนของฉันเพื่อใช้ช่วยเหลือประชาชาติของฉันในวันกียามะฮฺ อินชาอัลลอฮฺ การวอนขอของฉันมุ่งไปสู่ประชาชาติของฉันที่ตายไปโดยมิได้ตั้งภาคีใดๆเคียงคู่กับอัลลอฮฺ”2. อัลลอฮฺได้ตรัสถึงมลาอิกะฮฺว่า۞ وَكَم مِّن مَّلَكٍ فِي السَّمَاوَاتِ لَا تُغْنِي شَفَاعَتُهُمْ شَيْئًا إِلَّا مِن بَعْدِ أَن يَأْذَنَ اللَّهُ لِمَن يَشَاءُ وَيَرْضَىٰความว่า “และมลาอิกะฮฺกี่มากน้อยในชั้นฟ้าทั้งหลายนั้น การชะฟาอะฮฺของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์อันใด (แก่พวกเขา) เว้นแต่หลังจากอัลลอฮฺจะทรงอนุมัติแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงพอพระทัย” (ซูเราะฮฺ อันนัจญ์มฺ อายะฮฺที่ 26)3. จากท่านอบีดัรดาอ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า«يُشَفَّعُ الشَّهِيدُ فِي سَبْعِينَ مِنْ أَهْلِ بَيْتِهِ»ความว่า “ ผู้ที่ตายชะฮีด(ตายในสงครามศาสนา) มีสิทธิขอความช่วยเหลือให้แก่ญาติพี่น้องของเขา จำนวน 70 คน”เงื่อนไขของการชะฟาอะฮฺประเภทนี้มี 2 ประการ1.ได้รับการอนุมัติจากอัลลอฮ ดังที่พระองค์ตรัสว่าمَن ذَا الَّذِي يَشْفَعُ عِندَهُ إِلَّا بِإِذْنِهِความว่า “ใครเล่าที่จะให้การชะฟาอะฮฺ (แก่ผู้อื่น) ณ พระองค์ได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของพระองค์เท่านั้น” (ซูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 255 )2.ความพอพระทัยของอัลลอฮฺต่อผู้ขอชะฟาอะฮฺและผู้ถูกขอ ดังที่พระองค์ตรัสว่า وَلَا يَشْفَعُونَ إِلَّا لِمَنِ ارْتَضَىٰความว่า “และพวกเขาจะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใด นอกจากแก่ผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัย” (ซูเราะฮฺ อัลอัมบิยาอ์ อายะฮฺที่ 28 )คนกาฟิรไม่มีสิทธิได้รับการชะฟาอะฮฺ เขาจะพำนักในนรกตลอดกาลไม่มีโอกาสได้เข้าสวนสวรรค์เลย หากแม้นว่ามีผู้ใดมาชะฟาอะฮฺให้เขาก็ไม่มีประโยชน์อันใด ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสถึงผู้ทำชั่วว่าفَمَا تَنفَعُهُمْ شَفَاعَةُ الشَّافِعِينَ ความว่า “ดังนั้นการชะฟาอะฮฺของบรรดาผู้มีชะฟาอะฮฺจะไม่เกิดประโยชน์อันใดแก่พวกเขา” (ซูเราะฮฺ อัลมุดัษษิร อายะฮฺที่ 48)การวิงวอนขอให้ได้รับอัชชะฟาอะฮฺจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมสำหรับผู้ที่ประสงค์จะได้รับการชะฟาอะฮฺจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็จงขอจากอัลลอฮฺ เช่นขอดุอาอ์ว่าข้าแต่อัลลอฮฺ ได้โปรดประทานการชะฟาอะฮฺของนบีของพระองค์ให้แก่ข้าพเจ้าด้วย หลังจากนั้นก็ให้หมั่นประกอบการงานที่ดีอันเป็นเงื่อนไขหลักเพื่อการได้มาซึ่งอัชชะฟาอะฮฺ เช่น อัลอิคลาศ(ความบริสุทธิ์ใจ) ในการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียว หมั่นกล่าวเศาะลาวาต(ขอพร)ให้แด่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และขอให้ท่านนั้นเป็นสื่อกลางขอความช่วยเหลือในวันกิยามะฮฺจากท่านอบู ฮูร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่าแท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า«أَسْعَدُ النَّاسِ بِشَفَاعَتِي يَوْمَ القِيَامَةِ ، مَنْ قَالَ لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ ، خَالِصًا مِنْ قَلْبِهِ ، أَوْ نَفْسِهِ»ความว่า “มนุษย์ที่มีความสุขกับชะฟาอะฮฺของฉันในวันกียามะฮฺ คือผู้ที่กล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรสักการะนอกจากอัลลอฮฺ ด้วยใจที่บริสุทธิ์” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ เลขที่หะดีษ 99)